ธุรกิจของเรา
ปตท.สผ. ดำเนินธุรกิจทั้งการสำรวจ พัฒนา และผลิตปิโตรเลียม โดยนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน นอกจากนี้ บริษัทยังให้ความสนใจศึกษาธุรกิจพลังงานสะอาด รวมทั้งพลังงานรูปแบบใหม่ เพื่อพัฒนาแหล่งพลังงานใหม่ ๆ สำหรับอนาคต และเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน
ปตท.สผ. มีการดำเนินธุรกิจสำรวจ พัฒนา และผลิตปิโตรเลียม มากกว่า 50 โครงการ ในกว่า 10 ประเทศทั่วโลก โดยให้ความสำคัญต่อการลงทุนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และตะวันออกกลาง รวมทั้งพื้นที่ที่มีศักยภาพด้านปิโตรเลียมและโอกาสในการลงทุน
ในประเทศไทย ปตท.สผ. เป็นผู้ดำเนินการ (Operator) ในแหล่งปิโตรเลียมสำคัญ ๆ ของประเทศ เช่น โครงการจี 1/61 โครงการจี 2/61 โครงการอาทิตย์ โครงการเอส 1 และยังมีโครงการที่เป็นการร่วมทุนอีกหลายโครงการทั้งบนบกและในอ่าวไทย
สำหรับโครงการในต่างประเทศ ปตท.สผ. มีการลงทุนและเป็นผู้ดำเนินการในโครงการต่าง ๆ ในหลายประเทศ โดยโครงการหลัก ๆ ที่บริษัทเป็นผู้ดำเนินการ เช่น โครงการแอลจีเรีย ฮาสสิ เบอร์ ราเคซ ซึ่งเป็นโครงการผลิตน้ำมันดิบที่สำคัญของ ปตท.สผ. ในทวีปแอฟริกา และโครงการมาเลเซีย แปลง เอช ซึ่งเป็นโครงการผลิตก๊าซธรรมชาติในประเทศมาเลเซีย สำหรับโครงการที่อยู่ในระยะพัฒนา เช่น โครงการมาเลเซีย เอสเค410บี ซึ่งได้สำรวจพบแหล่งลัง เลอบาห์ ซึ่งเป็นแหล่งก๊าซธรรมชาติที่มีขนาดใหญ่ที่สุดที่ ปตท.สผ. เคยสำรวจพบ ส่วนโครงการร่วมลงทุนอื่น ๆ เช่น โครงการโอมาน แปลง 61 เป็นแหล่งก๊าซธรรมชาติบนบกที่มีปริมาณสำรองขนาดใหญ่และมีความสำคัญต่อตลาดก๊าซฯ ในประเทศโอมาน โครงการอาบูดาบี ออฟชอร์ 2 ซึ่งมีการค้นพบแหล่งก๊าซธรรมชาติขนาดใหญ่ และโครงการโมซัมบิก แอเรีย วัน ซึ่งเป็นโครงการก๊าซธรรมชาติเหลว (Liquefied Natural Gas) ขนาดใหญ่ในทวีปแอฟริกา
นอกจากนี้ ปตท.สผ. ยังมีการร่วมลงทุนในธุรกิจปิโตรเลียมขั้นกลาง (Midstream Business) เช่น โอมาน แอลเอ็นจี (Oman LNG หรือ OLNG) ซึ่งเป็นโรงงานผลิตก๊าซธรรมชาติเหลวแห่งเดียวในประเทศโอมาน และโรงแยกก๊าซธรรมชาติแอดนอค (ADNOC Gas Processing หรือ AGP) ซึ่งเป็นกลุ่มโรงแยกก๊าซธรรมชาติบนบกขนาดใหญ่ที่สุดของรัฐอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เพื่อส่งเสริมธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียมด้วย
นอกเหนือจากการสำรวจและผลิตปิโตรเลียมแล้ว ปตท.สผ. ยังได้ขยายการลงทุนในธุรกิจใหม่ โดยมุ่งเน้นธุรกิจพลังงานหมุนเวียน เช่น พลังงานลมนอกชายฝั่ง (Offshore wind farm) ที่สกอตแลนด์ สหราชอาณาจักร รวมทั้ง ช่วยส่งเสริมการดำเนินงานให้แก่อุตสาหกรรมต่าง ๆ ด้วย เช่น อุตสาหกรรมปิโตรเลียม ภาคเกษตรกรรม ธุรกิจที่เกี่ยวกับสุขภาพ โดย ปตท.สผ. ได้จัดตั้งบริษัทเพื่อดำเนินธุรกิจดังกล่าว เช่น บริษัท เอไอ แอนด์ โรโบติกส์ เวนเจอร์ส จำกัด (ARV) และ บริษัท ฟิวเจอร์เทค เอนเนอร์ยี่ เวนเจอร์ส จำกัด (FTEV) รวมทั้งการลงทุนธุรกิจในรูปแบบ Corporate Venture Capital เช่น บริษัท เอ็กซ์พลอร์ เวนเจอร์ส จำกัด (Xplor Ventures) เพื่อเข้าลงทุนในบริษัท Startup ที่ให้ความสำคัญต่อการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ
ขณะเดียวกัน ปตท.สผ. กำลังศึกษาและพัฒนาโครงการดักจับและกักเก็บก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (Carbon Capture and Storage หรือ CCS) ทั้งในประเทศไทยและในต่างประเทศ เพื่อช่วยลดการปล่อยคาร์บอนให้แก่อุตสาหกรรมปิโตรเลียม และอุตสาหกรรมอื่น ๆ โดยได้เริ่มการพัฒนาโครงการ CCS เป็นครั้งแรกของประเทศไทยที่แหล่งอาทิตย์ ในอ่าวไทย
โครงการลงทุนของเรา
สปอตไลต์

GoT Model องค์ความรู้เฉพาะทางของการสำรวจและผลิตปิโตรเลียมในอ่าวไทย

การค้นพบแหล่งก๊าซธรรมชาติครั้งประวัติศาสตร์ของเรา

การดักจับและกักเก็บคาร์บอนไดออกไซด์ (Carbon Capture and Storage: CCS)

โครงการผลิตก๊าซธรรมชาติเหลวบนบกขนาดใหญ่ในทวีปแอฟริกา

พื้นที่สัมปทานกาชา
ในปี 2567 ปตท.สผ. เข้าซื้อสัดส่วนการลงทุนร้อยละ 10 ในพื้นที่สัมปทานกาชา (Ghasha Concession) หนึ่งในแหล่งก๊าซธรรมชาติขนาดใหญ่ที่สุดในบริเวณนอกชายฝั่งอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) การเข้าร่วมลงทุนครั้งนี้เป็นการขยายฐานการลงทุนในภูมิภาคตะวันออกกลาง รวมทั้งส่งเสริมทำงานร่วมกับพันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญระดับโลก เพื่อพัฒนาและผลักดันโครงการให้ประสบความสำเร็จตามเป้าหมาย
แปลงสัมปทานกาชาตั้งอยู่ในบริเวณใกล้กับ โครงการอาบูดาบี ออฟชอร์ 2 และโครงการอาบูดาบี ออฟชอร์ 3 ซึ่ง ปตท.สผ. มีการร่วมทุนอยู่แล้ว จึงเป็นประโยชน์ในการบริหารจัดการโครงการร่วมกัน โดยคาดว่า แปลงสัมปทานกาชา จะสามารถผลิตก๊าซธรรมชาติได้มากกว่า 1,500 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวันภายในปี 2573 พร้อมมีแผนการดำเนินงานในการดักจับและกักเก็บก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ประมาณ 1.5 ล้านตันต่อปี (MMtpa) เพื่อให้เป็นโครงการผลิตก๊าซฯ ที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์





