นักลงทุนสัมพันธ์
ข้อมูลประชุมผู้ถือหุ้น
เรื่อง : ขอเชิญประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2567
เรียน : ท่านผู้ถือหุ้น
[วันที่เผยแพร่บนเวปไซต์ : 1 มีนาคม 2567]
สิ่งที่ส่งมาด้วย
- แบบแสดงรายการข้อมูลประจำปี 2566 (แบบ 56-1 One Report) ครอบคลุมการดำเนินการด้านความยั่งยืน
- หน้าที่และความรับผิดชอบของคณะกรรมการเฉพาะเรื่องของ ปตท.สผ.
- นิยามกรรมการอิสระของ ปตท.สผ.
- ข้อมูลของผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อเพื่อเลือกตั้งเป็นกรรมการ ปตท.สผ.
- ขั้นตอนและวิธีการลงทะเบียนเข้าร่วมประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2567 ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (E-Meeting) เอกสารในการเข้าร่วมประชุม และการมอบฉันทะ
- ซองธุรกิจตอบรับ (จัดส่งไปกับชุดหนังสือเชิญประชุม)
- หนังสือมอบฉันทะแบบ ก., แบบ ข. และ แบบ ค.
- รายชื่อและรายละเอียดเกี่ยวกับกรรมการอิสระเพื่อประกอบการมอบฉันทะของผู้ถือหุ้น
- ข้อบังคับบริษัท พระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด และพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เกี่ยวกับการประชุมผู้ถือหุ้นและการออกเสียงลงคะแนน
- แนวปฏิบัติในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของ ปตท.สผ. สำหรับการประชุมผู้ถือหุ้น
บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. ขอเชิญประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2567 ในวันจันทร์ที่ 1 เมษายน 2567 เวลา 14.30 น. ในรูปแบบการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์
(E-Meeting) ตามพระราชกำหนดว่าด้วยการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2563 รวมถึงกฎหมายและระเบียบอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยกำหนดให้วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2567 เป็นวันให้สิทธิผู้ถือหุ้น (Record Date) ในการเข้าร่วมการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2567 และมีระเบียบวาระการประชุม ดังนี้
ระเบียบวาระที่ 1 รับทราบผลการดำเนินงานประจำปี 2566 และแผนงานประจำปี 2567
ข้อมูลประกอบ :
ผลการดำเนินงานประจำปี 2566 มีรายละเอียดดังปรากฏในสิ่งที่ส่งมาด้วย 1 โดยแผนงานประจำปี 2567 จะนำเสนอในวันประชุม
ความเห็นของคณะกรรมการ :
ที่ประชุมผู้ถือหุ้นสมควรรับทราบผลการดำเนินงานประจำปี 2566 โดยมีตัวเลขทางการเงินและรายละเอียดต่าง ๆ ในแบบแสดงรายการข้อมูลประจำปี 2566 (แบบ 56-1 One Report) ครอบคลุมการดำเนินการด้านความยั่งยืน ของ ปตท.สผ. รวมถึงสมควรรับทราบแผนงานประจำปี 2567 ของ ปตท.สผ. ด้วย โดยจะนำเสนอในวันประชุม
ระเบียบวาระที่ 2 พิจารณาอนุมัติงบการเงินประจำปีสิ้นสุด วันที่ 31 ธันวาคม 2566
ข้อมูลประกอบ :
งบการเงินประจำปีสิ้นสุด วันที่ 31 ธันวาคม 2566 ของ ปตท.สผ. ได้ผ่านการตรวจสอบจากผู้สอบบัญชี และผ่านการสอบทานจากคณะกรรมการตรวจสอบ รวมทั้งคณะกรรมการ ปตท.สผ. ได้เห็นชอบแล้ว ดังปรากฏรายละเอียดในสิ่งที่ส่งมาด้วย 1 ทั้งนี้ สรุปสาระสำคัญเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมามีดังนี้
รายการ | ล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกา | ล้านบาท | ||
---|---|---|---|---|
2566 | 2565 | 2566 | 2565 | |
สินทรัพย์รวม |
26,380 |
25,168 |
902,821 | 869,865 |
หนี้สินรวม |
11,787 |
11,653 | 403,378 | 402,744 |
ส่วนของผู้ถือหุ้นรวม |
14,593 |
13,515 | 499,443 | 467,121 |
รายได้รวม |
9,057 |
9,660 | 315,216 | 339,902 |
กำไรสำหรับปี |
2,208 |
1,999 | 76,706 | 70,901 |
กำไรต่อหุ้นขั้นพื้นฐาน |
0.54 (ดอลลาร์ สรอ./ หุ้น) |
0.51 (ดอลลาร์ สรอ./ หุ้น) |
18.89 (บาท/หุ้น) |
17.94 (บาท/หุ้น) |
ความเห็นของคณะกรรมการ :
ที่ประชุมผู้ถือหุ้นสมควรอนุมัติงบการเงินประจำปีสิ้นสุด วันที่ 31 ธันวาคม 2566 ของ ปตท.สผ. ซึ่งผ่านการตรวจสอบจากผู้สอบบัญชี และผ่านการสอบทานจากคณะกรรมการตรวจสอบ รวมทั้งคณะกรรมการ ปตท.สผ. ได้เห็นชอบแล้ว
ระเบียบวาระที่ 3 พิจารณาการจ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานประจำปี 2566
ข้อมูลประกอบ :
นโยบายการจ่ายเงินปันผลของ ปตท.สผ. กำหนดไว้ว่าหากไม่มีความจำเป็นอันใด ปตท.สผ. จะจ่ายเงินปันผลแก่ผู้ถือหุ้นเป็นจำนวนไม่น้อยกว่าร้อยละ 30 ของกำไรสุทธิหลังจากหักภาษีเงินได้แล้วในแต่ละปี และตามพระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด พ.ศ. 2535 มาตรา 115 และข้อบังคับบริษัท ข้อ 32 กำหนดว่าคณะกรรมการ ปตท.สผ. อาจพิจารณาจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลให้แก่ผู้ถือหุ้นได้เป็นครั้งคราว หาก ปตท.สผ. มีผลกำไร และรายงานให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นทราบในการประชุมคราวต่อไป
ในปี 2566 ปตท.สผ. และบริษัทย่อย มีรายได้รวม 9,057 ล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกา มีกำไรสุทธิ 2,208 ล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกา มีสินทรัพย์รวม 26,380 ล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกา หนี้สินรวม 11,787 ล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกา ส่วนของผู้ถือหุ้น 14,593 ล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกา กำไรสะสมที่ยังไม่ได้จัดสรร 10,531 ล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกา และเงินสดคงเหลือซึ่งรวมเงินลงทุนระยะสั้นจำนวน 4,219 ล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกา จากผลประกอบการข้างต้น คณะกรรมการ ปตท.สผ. พิจารณาแล้วเห็นว่า บริษัทสมควรจ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานรวมของกลุ่ม ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2566 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2566 ในอัตราหุ้นละ 9.50 บาท คิดเป็นอัตราการจ่ายเงินปันผลประมาณร้อยละ 49 และ Annualized Dividend Yield ที่ร้อยละ 6.35 ซึ่งคาดว่าเป็นผลตอบแทนที่ยอมรับได้ของนักลงทุนและอยู่ในระดับเดียวกับ Industry Peers ประกอบกับการจ่ายเงินปันผลดังกล่าวสอดคล้องกับนโยบายการจ่ายเงินปันผลของบริษัท และไม่กระทบต่อสภาพคล่อง และโครงสร้างเงินทุนของบริษัท โดยได้คำนึงถึงความต้องการใช้เงินตามแผนการลงทุนต่าง ๆ แล้ว
ปตท.สผ. ได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลสำหรับงวด 6 เดือนแรกของปี 2566 ในอัตราหุ้นละ 4.25 บาท และจะจ่ายเงินปันผลส่วนที่เหลือของปี 2566 ในอัตราหุ้นละ 5.25 บาท ซึ่งเป็นการจ่ายจากกำไรสะสมที่ยังไม่ได้จัดสรรที่เสียภาษีเงินได้ปิโตรเลียมทั้งจำนวนให้แก่ผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับเงินปันผลตามที่ปรากฏรายชื่อ ณ วันกำหนดสิทธิผู้ถือหุ้น (Record Date) ในวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2567 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 22 เมษายน 2567 โดยจะจ่ายเมื่อได้รับการอนุมัติจากที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2567
การจ่ายเงินปันผลเป็นสกุลบาทนั้น อ้างอิงจากผลการดำเนินงานสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอเมริกา และอัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารที่ประกาศโดยธนาคารแห่งประเทศไทย (Weighted-average Interbank Exchange Rate) เฉลี่ย 1 วันทำการ ก่อนวันประชุมคณะกรรมการบริษัท
ข้อมูลเปรียบเทียบเงินปันผลจ่ายในปีที่ผ่านมาเป็นดังนี้
รายละเอียดการจ่ายเงินปันผล | ปี 2566 | ปี 2565 | ||
---|---|---|---|---|
ดอลลาร์ สรอ. | บาท | ดอลลาร์ สรอ. | บาท | |
1. กำไรสุทธิ (ล้าน) |
2,208 |
|
1,999 |
|
2. กำไรต่อหุ้นขั้นพื้นฐาน |
0.54 |
|
0.51 |
|
3. สัดส่วนการจ่ายเงินปันผล (ร้อยละ)* |
49 |
|
53 |
|
4. รวมเงินปันผลจ่ายประจำปีต่อหุ้น |
|
9.50 |
|
9.25 |
4.1 เงินปันผลระหว่างกาลงวด 6 เดือนแรก |
|
4.25 |
|
4.25 |
4.2 เงินปันผลส่วนที่เหลือ |
|
5.25 |
|
5.00 |
5. รวมเป็นเงินปันผลจ่ายทั้งสิ้น (ล้าน) |
|
37,715 |
|
36,722 |
6. จำนวนหุ้น (ล้านหุ้น) |
|
|
||
6.1 จำนวนหุ้นที่จ่ายเงินปันผลระหว่างกาล |
3,970 |
3,970 |
||
6.2 จำนวนหุ้นที่จ่ายเงินปันผลส่วนที่เหลือ |
3,970 |
3,970 |
*หมายเหตุ: อัตราการจ่ายเงินปันผลคำนวณจาก Weighted-average Interbank Exchange Rate เฉลี่ย 1 วันทำการ ก่อนวันประชุมคณะกรรมการบริษัท
ความเห็นของคณะกรรมการ :
ที่ประชุมผู้ถือหุ้นสมควรรับทราบการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล และอนุมัติการจ่ายเงินปันผลประจำปี 2566 ในอัตราหุ้นละ 9.50 บาท ทั้งนี้ ปตท.สผ. ได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลสำหรับงวด 6 เดือนแรกของปี 2566 ไปแล้วเมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2566 ในอัตราหุ้นละ 4.25 บาท (จากกำไรสะสมที่ยังไม่ได้จัดสรรที่เสียภาษีเงินได้ปิโตรเลียม) โดยจะจ่ายเงินปันผลส่วนที่เหลือของปี 2566 ในอัตราหุ้นละ 5.25 บาท ซึ่งเป็นการจ่ายจากกำไรสะสมที่ยังไม่ได้จัดสรรที่เสียภาษีเงินได้ปิโตรเลียมทั้งจำนวน ให้แก่ผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับเงินปันผลตามที่ปรากฏรายชื่อ ณ วันกำหนดสิทธิผู้ถือหุ้น (Record Date) ในวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2567 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 22 เมษายน 2567 โดยจะจ่ายเมื่อได้รับอนุมัติจากที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2567
ระเบียบวาระที่ 4 พิจารณาแต่งตั้งผู้สอบบัญชี และกำหนดค่าตอบแทนจากการสอบบัญชีสำหรับงบการเงินประจำปี 2567
ข้อมูลประกอบ :
ปตท.สผ. ถือเป็นหน่วยรับตรวจของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน พ.ศ. 2561 และเป็นหน่วยงานของรัฐตามพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 (พระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังฯ) สตง. จึงมีอำนาจและหน้าที่ในการตรวจสอบงบการเงินของ ปตท.สผ. อย่างไรก็ตาม สตง. ได้ขอความร่วมมือให้ ปตท.สผ. จัดหาบุคคลภายนอกเป็นผู้สอบบัญชี โดยอ้างอิงตามมาตรา 71 แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังฯ ที่กำหนดให้ สตง. หรือผู้สอบบัญชีที่ สตง. เห็นชอบตรวจสอบรายงานการเงินของหน่วยงานของรัฐ ปตท.สผ. จึงได้ดำเนินการจัดหาและแต่งตั้งผู้สอบบัญชีจากบริษัท ไพร้ซวอเตอร์เฮาส์คูเปอร์ส เอบีเอเอส จำกัด (PwC) เป็นผู้สอบบัญชี
ในการจัดหาผู้สอบบัญชี คณะกรรมการตรวจสอบได้พิจารณาคุณสมบัติผู้สอบบัญชี ทั้งในด้านคุณภาพ (Technical) ซึ่งพิจารณาจากประสบการณ์ คุณสมบัติของผู้สอบบัญชี รวมทั้งด้านราคา (Commercial) เห็นว่า PwC เป็นสำนักงานสอบบัญชีที่มีความน่าเชื่อถือ มีผลงานดี มีบุคลากรที่เพียงพอ มีความรู้ ความสามารถ จึงให้ความเห็นต่อคณะกรรมการ ปตท.สผ. เพื่อเสนอผู้ถือหุ้นอนุมัติแต่งตั้ง PwC เป็นสำนักงานสอบบัญชีของ ปตท.สผ. และเห็นสมควรให้แต่งตั้งผู้สอบบัญชีจาก PwC ดังต่อไปนี้ เป็นผู้สอบบัญชีของ ปตท.สผ. ประจำปี 2567
(1) นางสาวอมรรัตน์ เพิ่มพูนวัฒนาสุข* ผู้สอบบัญชีรับอนุญาต เลขที่ 4599 หรือ
(2) นายบุญเรือง เลิศวิเศษวิทย์ ผู้สอบบัญชีรับอนุญาต เลขที่ 6552 หรือ
(3) นายกรรณ ตัณฑวิรัตน์ ผู้สอบบัญชีรับอนุญาต เลขที่ 10456
* หมายเหตุ: นางสาวอมรรัตน์ เพิ่มพูนวัฒนาสุข เป็นผู้รับผิดชอบในการตรวจสอบ และแสดงความเห็นต่องบการเงินของ ปตท.สผ. ประจำปี 2563 – 2566 รวม 4 ปี
โดยให้คนใดคนหนึ่งเป็นผู้ทำการตรวจสอบและแสดงความเห็นต่องบการเงินของ ปตท.สผ. ด้วยค่าตอบแทนจากการสอบบัญชีสำหรับงบการเงินประจำปี 2567 จำนวน 6.50 ล้านบาท ซึ่งเป็นอัตราเดียวกับค่าตอบแทนจากการสอบบัญชีสำหรับปี 2566
ทั้งนี้ สตง. ได้เห็นชอบให้ผู้สอบบัญชีจาก PwC ที่เสนอมาข้างต้นเป็นผู้สอบบัญชีสำหรับงบการเงินประจำปี 2567 ของ ปตท.สผ. แล้ว นอกจากนี้ ผู้สอบบัญชีที่เสนอแต่งตั้งมีคุณสมบัติสอดคล้องกับประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และไม่มีความสัมพันธ์หรือส่วนได้เสียกับ ปตท.สผ. บริษัทย่อย ผู้บริหาร ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ หรือผู้ที่เกี่ยวข้องกับบุคคลดังกล่าวแต่อย่างใด จึงมีความเป็นอิสระในการตรวจสอบและแสดงความเห็นต่องบการเงินของ ปตท.สผ. สำหรับบริษัทย่อยบางบริษัทที่ถูกตรวจสอบโดยผู้สอบบัญชีอื่น คณะกรรมการจะดูแลให้สามารถจัดทำงบการเงินได้ทันตามกำหนดระยะเวลา
ข้อมูลเพิ่มเติม :
ค่าตอบแทนจากการสอบบัญชีและค่าบริการอื่น (Non-Audit Fees) ของ ปตท.สผ. และบริษัทย่อย มีดังนี้
ค่าตอบแทนจากการสอบบัญชี
ในรอบปีบัญชี 2566 ปตท.สผ. และบริษัทย่อยมีค่าตอบแทนจากการสอบบัญชี จำนวนรวม 71.66 ล้านบาท ซึ่งเป็นค่าตอบแทนให้กับสำนักงานสอบบัญชีที่ผู้สอบบัญชีของ ปตท.สผ.สังกัด (PwC) รวมถึงบุคคลหรือกิจการที่เกี่ยวข้องกับผู้สอบบัญชีและสำนักงานสอบบัญชีดังกล่าว* จำนวน 23.54 ล้านบาท และสำนักงานสอบบัญชีอื่น จำนวน 48.12 ล้านบาท
ในรอบปีบัญชี 2565 ปตท.สผ. และบริษัทย่อยมีค่าตอบแทนจากการสอบบัญชี จำนวนรวม 63.82 ล้านบาท ซึ่งเป็นค่าตอบแทนให้กับ PwC รวมถึงบุคคลหรือกิจการที่เกี่ยวข้องกับผู้สอบบัญชีและสำนักงานสอบบัญชีดังกล่าว* จำนวน 22.12 ล้านบาท และสำนักงานสอบบัญชีอื่น จำนวน 41.70 ล้านบาท
*หมายเหตุ : เป็นไปตามคำนิยามที่กำหนดโดย ก.ล.ต.
ค่าบริการอื่น
ในรอบปีบัญชี 2566 ปตท.สผ. และบริษัทย่อยมีค่าตอบแทนสำหรับค่าบริการอื่นให้กับ PwC รวมถึงบุคคลหรือกิจการที่เกี่ยวข้องกับผู้สอบบัญชีและสำนักงานสอบบัญชีดังกล่าว จำนวนรวม 68.88 ล้านบาท โดยเป็นค่าที่ปรึกษาสำหรับงาน M&A ในด้าน Financial Due Diligence ภาษีและบัญชีที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวและเฉพาะเจาะจงสำหรับงาน M&A นั้น ๆ จำนวน 38.16 ล้านบาท ซึ่งทั้งหมดจัดหาโดยวิธีประมูล ส่วนที่เหลือเป็นค่าบริการด้านอื่น ๆ เช่น ด้านภาษี ค่าบริการสำหรับการสอบทานรายงานทางการเงินที่มีวัตถุประสงค์เฉพาะ เป็นต้น ซึ่งส่วนใหญ่ดำเนินการจัดหาโดยวิธีประมูลเช่นเดียวกัน โดยค่าบริการอื่นที่ให้กับ PwC รวมถึงบุคคลหรือกิจการที่เกี่ยวข้องกับผู้สอบบัญชีและสำนักงานสอบบัญชี จำนวนรวม 68.88 ล้านบาทที่กล่าวมาข้างต้นนั้น คิดเป็นประมาณร้อยละ 20 เมื่อเปรียบเทียบกับค่าบริการอื่นทั้งหมดในปี 2566 ที่รวมส่วนของผู้ให้บริการรายอื่นด้วย
ในรอบปีบัญชี 2565 ปตท.สผ. และบริษัทย่อย มีค่าตอบแทนสำหรับค่าบริการอื่นให้กับ PwC รวมถึงบุคคลหรือกิจการที่เกี่ยวข้องกับผู้สอบบัญชีและสำนักงานสอบบัญชีดังกล่าว จำนวนรวม 39.87 ล้านบาท โดยเป็นค่าที่ปรึกษาสำหรับงาน M&A ในด้าน Financial Due Diligence ภาษีและบัญชีที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวและเฉพาะเจาะจงสำหรับงาน M&A นั้น ๆ จำนวน 19.95 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่จัดหาโดยวิธีประมูล ส่วนที่เหลือเป็นค่าบริการด้านอื่น ๆ เช่น ด้านภาษี ค่าบริการสำหรับการสอบทานรายงานทางการเงินที่มีวัตถุประสงค์เฉพาะ เป็นต้น ซึ่งส่วนใหญ่ดำเนินการจัดหาโดยวิธีประมูลเช่นเดียวกัน
ความเห็นของคณะกรรมการ :
ที่ประชุมผู้ถือหุ้นสมควรอนุมัติแต่งตั้งผู้สอบบัญชีจากบริษัท ไพร้ซวอเตอร์เฮาส์คูเปอร์ส เอบีเอเอส จำกัด ได้แก่ นางสาวอมรรัตน์ เพิ่มพูนวัฒนาสุข ผู้สอบบัญชีรับอนุญาต เลขที่ 4599 หรือนายบุญเรือง เลิศวิเศษวิทย์ ผู้สอบบัญชีรับอนุญาต เลขที่ 6552 หรือนายกรรณ ตัณฑวิรัตน์ ผู้สอบบัญชีรับอนุญาต เลขที่ 10456 เป็นผู้สอบบัญชีของ ปตท.สผ. ประจำปี 2567 และกำหนดค่าตอบแทนจากการสอบบัญชีสำหรับงบการเงินประจำปี 2567 จำนวน 6.50 ล้านบาท ตามข้อเสนอของคณะกรรมการตรวจสอบและคณะกรรมการ ปตท.สผ. ที่ได้เห็นชอบด้วยแล้ว
ระเบียบวาระที่ 5 พิจารณาค่าตอบแทนสำหรับคณะกรรมการและคณะกรรมการเฉพาะเรื่อง
ข้อมูลประกอบ :
ตามที่พระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด พ.ศ. 2535 ได้กำหนดให้การจ่ายค่าตอบแทนกรรมการเป็นไปตามมติของที่ประชุมผู้ถือหุ้น และในปี 2567 คณะกรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทนได้พิจารณาเปรียบเทียบค่าตอบแทนสำหรับคณะกรรมการ และคณะกรรมการเฉพาะเรื่องโดยเปรียบเทียบค่าตอบแทนสำหรับกรรมการ และคณะกรรมการเฉพาะเรื่องกับบริษัทชั้นนำ และบริษัทในกลุ่ม ปตท. รวมทั้งคำนึงถึงปัจจัยและความเหมาะสมตามหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี ประกอบกับผลการดำเนินงานของบริษัท ผลการปฏิบัติงานของกรรมการ ภาระหน้าที่และความรับผิดชอบของกรรมการ พบว่าค่าตอบแทนรายเดือน เบี้ยประชุม และโบนัสกรรมการ มีความเหมาะสม สอดคล้องกับค่าตอบแทนของกลุ่มบริษัทชั้นนำในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET 50) และบริษัทในกลุ่ม ปตท. แล้ว จึงเห็นสมควรให้คงค่าตอบแทนทุกรายการในอัตราเท่าเดิม ตามมติของที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2566 โดยมีรายละเอียดดังนี้
ค่าตอบแทนรายเดือน เบี้ยประชุม โบนัส และผลประโยชน์อื่นใด
องค์ประกอบค่าตอบแทน(1) | ปี 2567 (ปีที่เสนอ) | ปี 2566 |
---|---|---|
1. ค่าตอบแทนกรรมการบริษัท | ||
1.1 ค่าตอบแทนรายเดือน (จ่ายเต็มเดือน) | บาท/คน/เดือน | บาท/คน/เดือน |
• ประธานกรรมการ | 50,000 | 50,000 |
• กรรมการ | 40,000 | 40,000 |
1.2 เบี้ยประชุม (เฉพาะกรรมการที่เข้าประชุม) | บาท/คน/ครั้ง | บาท/คน/ครั้ง |
• ประธานกรรมการ | 62,500 | 62,500 |
• กรรมการ | 50,000 | 50,000 |
2. ค่าตอบแทนกรรมการเฉพาะเรื่องตามข้อบังคับบริษัท | ||
2.1 เบี้ยประชุม (เฉพาะกรรมการที่เข้าประชุม) | บาท/คน/ครั้ง | บาท/คน/ครั้ง |
• ประธานกรรมการเฉพาะเรื่อง | 56,250 | 56,250 |
• กรรมการ | 45,000 | 45,000 |
3. ผลประโยชน์อื่นใด | ไม่มี | ไม่มี |
4. โบนัสกรรมการ(2) | ร้อยละ 0.2 ของกำไรสุทธิ โดยมีวงเงินสูงสุดไม่เกิน 60 ล้านบาท |
ร้อยละ 0.2 ของกำไรสุทธิ โดยมีวงเงินสูงสุดไม่เกิน 60 ล้านบาท |
*หมายเหตุ: (1) ประธานกรรมการได้รับค่าตอบแทนทุกรายการสูงขึ้นร้อยละ 25 (2) โบนัสกรรมการ: ให้คณะกรรมการบริษัทได้รับโบนัสในอัตราร้อยละ 0.2 ของกำไรสุทธิจากงบการเงินรวมประจำปีของบริษัทที่ได้รับอนุมัติจากผู้ถือหุ้นในแต่ละปี ถ้ามีการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้น โดยจ่ายตามระยะเวลาในการดำรงตำแหน่งกรรมการ และมีวงเงินสูงสุดไม่เกิน 60 ล้านบาท โดยประธานกรรมการ ปตท.สผ. จะได้รับโบนัสสูงกว่ากรรมการ ในอัตราร้อยละ 25 |
ทั้งนี้ เพื่อหลีกเลี่ยงการมีส่วนได้เสียพิเศษ กรรมการที่เป็นผู้ถือหุ้นและกรรมการอิสระที่ได้รับมอบฉันทะจะไม่ออกเสียงลงคะแนนในระเบียบวาระนี้ (เว้นแต่กรณีผู้ถือหุ้นระบุให้กรรมการอิสระออกเสียงลงคะแนนแทนอย่างชัดเจนโดยใช้หนังสือมอบฉันทะ แบบ ข. หรือ แบบ ค.)
ความเห็นของคณะกรรมการ :
ที่ประชุมผู้ถือหุ้นสมควรอนุมัติค่าตอบแทนคณะกรรมการและคณะกรรมการเฉพาะเรื่อง ปี 2567ได้แก่ ค่าตอบแทนรายเดือน เบี้ยประชุม รวมทั้งโบนัสกรรมการประจำปี 2566 ในอัตราเท่าเดิมตามมติของที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นปี 2566 ซึ่งคณะกรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทนได้พิจารณากลั่นกรองอย่างเหมาะสม และคณะกรรมการ ปตท.สผ. ได้เห็นชอบด้วยแล้ว
ระเบียบวาระที่ 6 พิจารณาเลือกตั้งกรรมการแทนกรรมการที่ออกตามวาระ และที่ลาออก
ข้อมูลประกอบ :
ตามพระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด พ.ศ. 2535 และข้อบังคับบริษัท ข้อ 11 กำหนดให้ในการประชุมสามัญประจำปีทุกครั้ง ให้กรรมการ ปตท.สผ. ซึ่งอยู่ในตำแหน่งนานที่สุดจำนวน 1 ใน 3 ต้องออกจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระ
ในการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2567 กรรมการ ปตท.สผ. ที่จะครบวาระมีจำนวน 5 คน และเป็นผู้มีคุณสมบัติเป็นกรรมการอิสระตามนิยามกรรมการอิสระของ ปตท.สผ. ทั้ง 5 คน ดังรายชื่อต่อไปนี้
(1) นายไกรฤทธิ์ อุชุกานนท์ชัย - ประธานกรรมการ และประธานกรรมการอิสระ
(2) นายปิติพันธ์ เทพปฏิมากรณ์ - กรรมการอิสระ ประธานกรรมการบริหารความเสี่ยง และกรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทน
(3) นางอังครัตน์ เพรียบจริยวัฒน์ - กรรมการอิสระ และกรรมการตรวจสอบ
(4) นางณัฐฏ์จารี อนันตศิลป์ - กรรมการอิสระ และกรรมการตรวจสอบ
(5) พลเรือเอก ธนะรัตน์ อุบล* - กรรมการอิสระ และประธานกรรมการบรรษัทภิบาลและความยั่งยืน
*หมายเหตุ พลเรือเอก ธนะรัตน์ อุบล ได้ลาออกจากตำแหน่งกรรมการ ปตท.สผ. โดยมีผลตั้งแต่วันที่
1 กันยายน 2566 โดย ปตท.สผ. ได้ดำเนินการสรรหาบุคคลที่มีคุณสมบัติเหมาะสมเพื่อดำรงตำแหน่งกรรมการแทน พลเรือเอก ธนะรัตน์ อุบล จนถึงปัจจุบัน ปตท.สผ. จึงขอเสนอให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นพิจารณาและเลือกตั้งบุคคลที่มีคุณสมบัติเหมาะสมเพื่อดำรงตำแหน่งแทนพลเรือเอก ธนะรัตน์ ในคราวนี้
ในการสรรหากรรมการ ปตท.สผ. ได้ประกาศเชิญให้ผู้ถือหุ้นเสนอชื่อบุคคลที่เห็นว่ามีคุณสมบัติเหมาะสม เพื่อรับการคัดเลือกเป็นกรรมการ ปตท.สผ. ในช่วงระหว่างวันที่ 1 กันยายน – 30 พฤศจิกายน 2566 โดยเผยแพร่ผ่านระบบข่าวของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และเผยแพร่บนเว็บไซต์ของ ปตท.สผ. แต่ไม่มีผู้ถือหุ้นรายใดเสนอชื่อบุคคลที่เห็นว่ามีคุณสมบัติเหมาะสมในการเป็นกรรมการมายัง ปตท.สผ.
คณะกรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทนได้ดำเนินการสรรหากรรมการโดยพิจารณาถึง Skill Mix ตามองค์ประกอบของคณะกรรมการ ปตท.สผ. คุณสมบัติ ทักษะ ประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญ วาระการดำรงตำแหน่ง และข้อเสนอของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ผู้ถือหุ้นใหญ่ โดยได้ผ่านกระบวนการกลั่นกรองของคณะกรรมการ ปตท.สผ. แล้วว่าเป็นผู้มีคุณสมบัติครบถ้วนตามกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องและเหมาะสมกับการประกอบธุรกิจของ ปตท.สผ. จึงเห็นสมควรเสนอชื่อบุคคลจำนวน 5 คน เข้าเป็นกรรมการ ปตท.สผ. และเสนอให้ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2567 พิจารณาเลือกตั้งแทนกรรมการที่ครบวาระในปี 2567 รวมถึงกรรมการที่ลาออก ดังนี้
(1) นายไกรฤทธิ์ อุชุกานนท์ชัย - ดำรงตำแหน่งต่ออีกวาระหนึ่ง
(2) นายธงทิศ ฉายากุล - แทน นายปิติพันธ์ เทพปฏิมากรณ์
(3) นายพงศธร ทวีสิน - แทน นางอังครัตน์ เพรียบจริยวัฒน์
(4) นางณัฐฏ์จารี อนันตศิลป์ - ดำรงตำแหน่งต่ออีกวาระหนึ่ง
(5) พลเรือเอก ปกครอง มนธาตุผลิน - แทน พลเรือเอก ธนะรัตน์ อุบล
คณะกรรมการ ปตท.สผ. เห็นว่าบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อทั้ง 5 คน เหมาะสมที่จะได้รับการพิจารณาเลือกตั้งให้เป็นกรรมการ ปตท.สผ. เนื่องจากเป็นผู้มีคุณสมบัติและทักษะตรงตาม Target Skill Mix และ/หรือ Skill Mix ด้านอื่นที่ยังมีสัดส่วนกรรมการไม่มาก โดยเป็นผู้มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ ทั้งในด้านธุรกิจพลังงาน ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ด้านวิศวกรรม ด้านเศรษฐศาสตร์ ด้านความมั่นคงและปลอดภัย และอื่น ๆ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการวางยุทธศาสตร์เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงานของ ปตท.สผ. และเสริมสร้างความแข็งแกร่งในธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียมและธุรกิจใหม่ โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ ปตท.สผ. เป็นองค์กรในระดับสากลและเติบโตอย่างยั่งยืน การพิจารณาเลือกตั้งให้บุคคลทั้ง 5 คน ดำรงตำแหน่งกรรมการ ปตท.สผ. จึงเป็นประโยชน์ในการสานต่อและการขยายการดำเนินงานให้เป็นไปตามแผนกลยุทธ์ของ ปตท.สผ. ต่อไป
(1) นายไกรฤทธิ์ อุชุกานนท์ชัย เป็นกรรมการ ปตท.สผ. ต่ออีกหนึ่งวาระ เนื่องจากเป็นผู้ที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ในภาคธุรกิจ มีความชำนาญในการบริหารองค์กรขนาดใหญ่ที่มีความซับซ้อน มีความรู้ความเข้าใจในธุรกิจพลังงานอย่างครบวงจร เข้าใจแผนยุทธศาสตร์พลังงานในภาพรวมเป็นอย่างดี สามารถผลักดันให้ ปตท.สผ จัดทำแผนกลยุทธ์องค์กร และการบริหารความเสี่ยงองค์กรได้อย่างเหมาะสม พร้อมรองรับโอกาสทางธุรกิจทั้งที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียมและธุรกิจใหม่ รวมถึงการสร้างมูลค่าเพิ่มจากโครงการปัจจุบัน เพื่อให้องค์กรเติบโตได้อย่างยั่งยืน
(2) นายธงทิศ ฉายากุล เป็นกรรมการ แทนนายปิติพันธ์ เทพปฏิมากรณ์ เนื่องจากเป็นผู้ที่มีความรู้ และความเชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมศาสตร์ นวัตกรรม การวิจัยพัฒนา และการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี เคยดำรงตำแหน่งกรรมการและที่ปรึกษาอิสระให้กับหน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ และโครงการขนาดใหญ่ต่าง ๆ มีความเข้าใจและมีมุมมองในการดำเนินกิจการเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนและความเจริญของประเทศ ปัจจุบันเป็นคณะกรรมการเฉพาะด้านโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลในคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแหงชาติ มีความเข้าใจและจะสามารถผลักดันการนำเทคโนโลยีดิจิทัลและการสื่อสารมาขับเคลื่อนการพัฒนาองค์กร อันจะเป็นประโยชน์ต่อ ปตท.สผ. ในด้านการพัฒนาเทคโนโลยี และการสร้างโอกาสทางธุรกิจ
(3) นายพงศธร ทวีสิน เป็นกรรมการ แทน นางอังครัตน์ เพรียบจริยวัฒน์ เนื่องจากเป็นผู้ที่มีความรู้และความเชี่ยวชาญในธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียมทั้งในและต่างประเทศเป็นอย่างดี มีประสบการณ์ในการบริหารโครงการต่าง ๆ ในฐานะอดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ ปตท.สผ. เป็นผู้มีวิสัยทัศน์ในด้านการเปลี่ยนแปลงองค์กร (Transformation) และผลักดันให้ ปตท.สผ. ขับเคลื่อน Digital Transformation จนพัฒนาเป็นธุรกิจใหม่ เช่น บริษัท เอไอ แอนด์ โรโบติกส์ เวนเจอร์ส จำกัด ได้สำเร็จ เป็นผู้ที่ได้รับการยอมรับจากผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย รวมทั้งมีประสบการณ์ในการกำกับดูแลธุรกิจพลังงานครบวงจร ซึ่งจะสามารถสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนให้กับ ปตท.สผ. ได้
(4) นางณัฐฏ์จารี อนันตศิลป์ เป็นกรรมการ ปตท.สผ. ต่ออีกหนึ่งวาระ เนื่องจากเป็นผู้ที่มีความรู้และความเชี่ยวชาญในด้านเศรษฐศาสตร์และการเงินอย่างดียิ่ง มีประสบการณ์ทำงานและบริหารจัดการในระดับประเทศที่มุ่งเน้นการตัดสินใจในระดับนโยบายภายใต้สถานการณ์ที่มีความกดดันทั้งทางด้านทรัพยากรและระยะเวลาที่จำกัด ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับ ปตท.สผ. ในการกำหนดนโยบายเพื่อแก้ไขปัญหาในสถานการณ์ฉุกเฉินต่าง ๆ อีกทั้งสามารถประสานงานอย่างบูรณาการกับหน่วยงานสำคัญระดับประเทศในการขับเคลื่อนกลยุทธ์ของ ปตท.สผ. ให้ประสบความสำเร็จ ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะรัฐมนตรี
(5) พลเรือเอก ปกครอง มนธาตุผลิน เป็นกรรมการ แทนพลเรือเอก ธนะรัตน์ อุบล เนื่องจากเป็นผู้ที่มีความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์ในการประสานความร่วมมือระหว่างประเทศ เคยดำรงตำแหน่ง ผู้ช่วยทูตทหารเรือไทย ประจำกรุงกัวลาลัมเปอร์ มีความเข้าใจการพัฒนาและการดำเนินโครงการในพื้นที่พัฒนาร่วมไทย-มาเลเซีย เป็นผู้มีทักษะการสื่อสารเชิงยุทธศาสตร์ และใช้การสื่อสารฯ ในการนำองค์กรผ่านพ้นสภาวะวิกฤต ขณะดำรงตำแหน่งโฆษกศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล และโฆษกกองทัพเรือ มีความเชี่ยวชาญในด้านกฎหมายและความมั่นคงทางทะเล ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการวางยุทธศาสตร์เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องกับทางทะเลของ ปตท.สผ. ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองผู้บัญชาการทหารสูงสุด กองบัญชาการกองทัพไทย
ความเห็นของคณะกรรมการ :
ที่ประชุมผู้ถือหุ้นสมควรอนุมัติเลือกตั้งกรรมการ 5 คน ได้แก่ (1) นายไกรฤทธิ์ อุชุกานนท์ชัย (2) นายธงทิศ ฉายากุล (3) นายพงศธร ทวีสิน (4) นางณัฐฏ์จารี อนันตศิลป์ และ (5) พลเรือเอก ปกครอง มนธาตุผลิน ตามข้อเสนอของคณะกรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทนที่ได้พิจารณากลั่นกรองอย่างเหมาะสม และคณะกรรมการ ปตท.สผ. ได้ให้ความเห็นชอบแล้ว โดยผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อให้เป็นกรรมการอิสระทั้ง 5 คน มีคุณสมบัติเป็นไปตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ข้อกำหนดที่เกี่ยวกับกรรมการอิสระและตามนิยามกรรมการอิสระของ ปตท.สผ. ตามสิ่งที่ส่งมาด้วย 3 ทั้งนี้ กรรมการที่มีส่วนได้เสียไม่ได้อยู่ในห้องประชุมและไม่ได้ออกเสียงในที่ประชุมคณะกรรมการ ปตท.สผ.
ระเบียบวาระที่ 7 เรื่องอื่น ๆ (ถ้ามี)
ข้อมูลประกอบ :
ตามพระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด พ.ศ. 2535 นอกจากระเบียบวาระต่าง ๆ ข้างต้นแล้ว ผู้ถือหุ้นซึ่งมีหุ้นนับรวมกันได้ไม่น้อยกว่าหนึ่งในสามของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้ทั้งหมด จะขอให้ที่ประชุมพิจารณาเรื่องอื่นนอกจากที่ได้กำหนดไว้ในหนังสือนัดประชุมอีกก็ได้
ความเห็นของคณะกรรมการ :
ที่ประชุมผู้ถือหุ้นไม่สมควรพิจารณาเรื่องอื่น ๆ อีก เนื่องจากตามหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดีสำหรับบริษัทจดทะเบียนปี 2560 และโครงการประเมินคุณภาพการจัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี ที่ประชุมสมควรพิจารณาปรึกษาหารือกันเฉพาะเรื่องที่มีการแจ้งไว้ล่วงหน้าเท่านั้น เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับผู้ถือหุ้นทั้งหมดโดยรวม
ปตท.สผ. จะจัดประชุมผู้ถือหุ้นในรูปแบบการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (E-Meeting) เพียงรูปแบบเดียวเท่านั้น (บริษัทไม่มีการจัดห้องสำหรับการประชุม) จึงขอให้ผู้ถือหุ้นที่ประสงค์จะเข้าร่วมประชุมด้วยตนเองผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์หรือมอบฉันทะให้แก่บุคคลใดบุคคลหนึ่งเข้าร่วมประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ กรุณาศึกษาขั้นตอนและวิธีการลงทะเบียนเข้าร่วมประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2567 ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (E-Meeting) และการมอบฉันทะตามสิ่งที่ส่งมาด้วย 5 โดยบริษัทจะเปิดระบบลงทะเบียนยื่นแบบคำร้องและเอกสารที่เกี่ยวข้องต่าง ๆ ตั้งแต่วันที่ 18 มีนาคม 2567 เวลา 8.30 น. จนกว่าการประชุมจะเสร็จสิ้นในวันที่ 1 เมษายน 2567
ปตท.สผ. แนะนำให้ใช้หนังสือมอบฉันทะ แบบ ข. ในกรณีที่ผู้ถือหุ้นมอบฉันทะให้กรรมการอิสระของ ปตท.สผ. แทนการเข้าร่วมประชุมด้วยตนเอง กรุณาส่ง (1) หนังสือมอบฉันทะและเอกสารประกอบการมอบฉันทะ ใส่ซองตอบรับ ซึ่ง ปตท.สผ. จะจัดส่งให้พร้อมหนังสือเชิญประชุม (ไม่ต้องติดแสตมป์) มายัง ปตท.สผ. ภายในวันที่ 25 มีนาคม 2567 เวลา 17.00 น. หรือ (2) มอบฉันทะให้กรรมการอิสระของ ปตท.สผ. ผ่านระบบ Pre-Register ตามรายละเอียดในสิ่งที่ส่งมาด้วย 5
ผู้ถือหุ้นสามารถส่งคำถามล่วงหน้า โดยกรุณาระบุคำถามพร้อมระบุชื่อ นามสกุล หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล (ถ้ามี) ผ่านช่องทางอีเมล: CorporateSecretary@pttep.com หรือโทรสารหมายเลข 0-2537-4500 ซึ่ง ปตท.สผ. จะจัดการประชุมให้กระชับโดยจำกัดการตอบคำถามในการประชุมอย่างเหมาะสม เพื่อให้เป็นไปตามกำหนดเวลา คำถามทุกคำถามที่ไม่ได้ตอบในการประชุม ปตท.สผ. จะตอบและเผยแพร่บนเว็บไซต์ของบริษัทต่อไป
อนึ่ง เพื่อให้สอดคล้องตามนโยบายในการจัดประชุมในรูปแบบ Sustainable Event โดยคำนึงถึงการใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุดและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ปตท.สผ. ได้จัดทำแบบแสดงรายการข้อมูลประจำปี 2566 (แบบ 56-1 One Report) ครอบคลุมการดำเนินการด้านความยั่งยืน ในรูปแบบ QR Code ในแบบฟอร์มหนังสือเชิญประชุม หรือรูปแบบดิจิทัลบนเว็บไซต์ของ ปตท.สผ. โดยไม่จัดพิมพ์รูปเล่ม
หากมีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ เกี่ยวกับการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ปตท.สผ. จะแจ้งข้อมูลให้ท่านทราบผ่านทางเว็บไซต์ของบริษัท (https://www.pttep.com) ต่อไป
จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ
ขอแสดงความนับถือ
มนตรี ลาวัลย์ชัยกุล
นายมนตรี ลาวัลย์ชัยกุล
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สายงานเลขานุการบริษัทและกำกับดูแล ปตท.สผ. :
- นางสาวจุฑามาศ ชูสุทธินนท์ชัย โทร. 0-2537-5075
- นางวาทิต วัฒนปาณี บริบาล โทร. 0-2537-5560
- นางสาวอรวิชญา ยุชยะทัต โทร. 0-2537-5517
เอกสารที่เกี่ยวข้อง
การเสนอระเบียบวาระการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นและชื่อกรรมการล่วงหน้า
“ระเบียบวาระการประชุม” หมายถึง ระเบียบวาระการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2567 ของ ปตท.สผ.
“คณะกรรมการ” หมายถึง คณะกรรมการ ปตท.สผ.
“กรรมการ” หมายถึง กรรมการ ปตท.สผ.
3.1 เป็นผู้ถือหุ้นของบริษัท ณ วันที่เสนอระเบียบวาระการประชุมหรือเสนอชื่อกรรมการ โดยอาจเป็นผู้ถือหุ้นรายเดียวหรือหลายรายรวมกันก็ได้ และ
3.2 มีสัดส่วนการถือหุ้นขั้นต่ำไม่น้อยกว่า 100,000 หุ้น
(1) | ต้องเสนอโดยผู้ถือหุ้นที่มีคุณสมบัติครบถ้วนตามข้อ 3 |
(2) | ต้องกรอก “แบบเสนอระเบียบวาระการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2567 (แบบ ก.)” และส่งต้นฉบับของแบบ ก. พร้อมเอกสารหลักฐานที่บริษัทกำหนดให้ถึงบริษัทภายในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2566 เพื่อให้คณะกรรมการมีเวลาเพียงพอในการพิจารณาระเบียบวาระการประชุม ทั้งนี้ สามารถส่งเอกสารดังกล่าวอย่างไม่เป็นทางการทางจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (Email) มายัง corporatesecretary@pttep.com ก่อนนำส่งเอกสารต้นฉบับได้ |
(3) | กรณีผู้ถือหุ้นหลายรายรวมกันเสนอระเบียบวาระการประชุม ผู้ถือหุ้นทุกรายต้องกรอก “แบบ ก.” และลงชื่อไว้เป็นหลักฐาน แล้วรวมส่งเป็นชุดเดียวกัน |
4.2 วิธีการพิจารณา
(1) | คณะกรรมการจะเป็นผู้พิจารณาความเหมาะสมของระเบียบวาระการประชุมที่ผู้ถือหุ้นเสนอ ซึ่งจะต้องไม่มีลักษณะดังนี้ | |
(1.1) | เรื่องที่กำหนดเป็นข้อยกเว้นในมาตรา 89/28 วรรคสองของพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ที่แก้ไขเพิ่มเติม [1] | |
(1.2) | เรื่องที่ขัดกับกฎหมาย ประกาศ และระเบียบต่าง ๆ ของหน่วยงานราชการ หรือหน่วยงานที่กำกับดูแลบริษัท หรือไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ ข้อบังคับบริษัท มติที่ประชุมผู้ถือหุ้น และการกำกับดูแลกิจการที่ดีและจริยธรรมธุรกิจของกลุ่ม ปตท.สผ. | |
(1.3) | เรื่องที่บริษัทได้ดำเนินการแล้ว | |
(1.4) | เรื่องที่ผู้ถือหุ้นให้ข้อมูลไม่ครบถ้วน หรือไม่ถูกต้อง ไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่บริษัทกำหนด หรือเรื่องที่ไม่สามารถติดต่อผู้ถือหุ้นเพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติมได้ | |
ทั้งนี้ เว้นแต่คณะกรรมการจะพิจารณาเป็นอย่างอื่น และให้คำวินิจฉัยของคณะกรรมการถือเป็นที่สุด | ||
(2) | เรื่องที่ได้รับความเห็นชอบโดยคณะกรรมการจะถูกบรรจุเป็นระเบียบวาระการประชุม พร้อมทั้งความเห็นของคณะกรรมการ | |
(3) | เรื่องที่ไม่ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการ บริษัทจะแจ้งให้ผู้ถือหุ้นทราบพร้อมชี้แจงเหตุผลผ่านช่องทางของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยหรือช่องทางอื่นที่เหมาะสม และแจ้งเป็นระเบียบวาระเพื่อทราบในการประชุมผู้ถือหุ้นด้วย |
[1] | (1) | เป็นเรื่องที่ไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดในวรรคหนึ่งของมาตรา 89/28 |
(2) | เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจปกติของบริษัท และข้อเท็จจริงที่กล่าวอ้างโดยผู้ถือหุ้นมิได้แสดงถึงเหตุอันควรสงสัยเกี่ยวกับความไม่ปกติของเรื่องดังกล่าว | |
(3) | เป็นเรื่องที่อยู่นอกเหนืออำนาจที่บริษัทจะดำเนินการให้เกิดผลตามที่ประสงค์ | |
(4) | เป็นเรื่องที่ผู้ถือหุ้นได้เคยเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาแล้วในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมา และเรื่องดังกล่าวได้รับมติสนับสนุนด้วยคะแนนเสียงน้อยกว่าร้อยละ 10 ของจำนวนสิทธิออกเสียงทั้งหมดของบริษัท เว้นแต่ข้อเท็จจริงในการนำเสนอครั้งใหม่จะได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างมีนัยสำคัญจากข้อเท็จจริงในขณะที่นำเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นในครั้งก่อน | |
(5) | กรณีอื่นใดตามที่คณะกรรมการกำกับตลาดทุนประกาศกำหนด |
(1) | ต้องเสนอโดยผู้ถือหุ้นที่มีคุณสมบัติครบถ้วนตามข้อ 3 |
(2) | ต้องกรอก “แบบเสนอชื่อกรรมการ (แบบ ข.)” และ “แบบข้อมูลของบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อเป็นกรรมการ” และส่งต้นฉบับของแบบ ข. และแบบข้อมูลของบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อเป็นกรรมการพร้อมเอกสารหลักฐานที่บริษัทกำหนดให้ถึงบริษัทภายในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2566 เพื่อให้ ปตท.สผ. มีเวลาในการพิจารณากลั่นกรองและตรวจสอบคุณสมบัติก่อนนำเสนอให้คณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) พิจารณาให้ความเห็นชอบรายชื่อกรรมการ |
ทั้งนี้ สามารถส่งเอกสารอย่างไม่เป็นทางการมาทางจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (Email) ที่ corporatesecretary@pttep.com ก่อนนำส่งเอกสารต้นฉบับได้ | |
(3) | กรณีผู้ถือหุ้นหลายรายรวมกันเสนอชื่อกรรมการ ผู้ถือหุ้นทุกรายต้องกรอก “แบบ ข.” และลงชื่อไว้เป็นหลักฐาน แล้วรวมส่งเป็นชุดเดียวกัน |
5.2 วิธีการพิจารณา
(1) | คณะกรรมการจะเป็นผู้พิจารณาบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อเป็นกรรมการ ซึ่งจะต้องมีคุณสมบัติ และไม่มีลักษณะต้องห้าม ดังนี้ | |
(1.1) | มีคุณสมบัติถูกต้องและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามกฎหมายบริษัทมหาชนจำกัด กฎหมายหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ การกำกับดูแลกิจการที่ดีและจริยธรรมธุรกิจของกลุ่ม ปตท.สผ. และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง | |
(1.2) | มีอายุไม่เกิน 70 ปีบริบูรณ์ (นับถึงสิ้นปี 2567) | |
(1.3) | มีความรู้ ความสามารถ ที่เป็นประโยชน์อย่างสำคัญต่อธุรกิจของบริษัท โดย ปตท.สผ. ได้กำหนด Skill Mix ของคณะกรรมการ ปตท.สผ. สำหรับใช้เป็นกรอบการพิจารณาสรรหากรรมการ ซึ่งในปี 2567 จะให้ความสำคัญในทักษะ 3 ด้าน ได้แก่ การประสานความร่วมมือระหว่างประเทศ ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและความสัมพันธ์ทางการทูต (International Market and Collaborations) นวัตกรรมและเทคโนโลยี (Innovation & Technology) และกฎหมาย (Legal) โดยอาจพิจารณา Skill Mix ด้านอื่นที่ยังมีสัดส่วนกรรมการไม่มากตามความจำเป็นและเหมาะสมด้วย | |
(1.4) | ไม่ดำรงตำแหน่งกรรมการบริษัทจดทะเบียนเกิน 3 บริษัท (รวม ปตท.สผ. กรณีได้รับแต่งตั้งเป็นกรรมการ) | |
(1.5) | ไม่เป็นกรรมการในรัฐวิสาหกิจและหรือนิติบุคคลที่รัฐวิสาหกิจเป็นผู้ถือหุ้นเกินกว่า 3 แห่ง | |
(2) | บุคคลที่มีคุณวุฒิ และประสบการณ์ที่เหมาะสม รวมถึงมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตาม (1) จะถูกเสนอชื่อไปยังคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบตามที่กำหนดไว้ในระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการกำหนดนโยบายและกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. 2557 ข้อ 12 ต่อไป | |
(3) | บุคคลที่ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการหรือคณะกรรมการ นโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) จะได้รับการบรรจุชื่อในระเบียบวาระการประชุม พร้อมทั้งความเห็นของคณะกรรมการและ คนร. (ถ้ามี) | |
(4) | บุคคลที่ไม่ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการหรือคณะกรรมการ นโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) ปตท.สผ. จะแจ้งให้ผู้ถือหุ้นทราบพร้อมชี้แจงเหตุผลผ่านช่องทางของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยหรือช่องทางอื่นที่เหมาะสม และแจ้งเป็นระเบียบวาระเพื่อทราบในการประชุมผู้ถือหุ้นด้วย |