นักลงทุนสัมพันธ์
ข้อมูลประชุมผู้ถือหุ้น
เรื่อง : ขอเชิญประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2564
เรียน : ท่านผู้ถือหุ้น
[วันที่เผยแพร่บนเวปไซต์ : 5 มีนาคม 2564]
สิ่งที่ส่งมาด้วย
- รายงานประจำปี แบบแสดงรายการข้อมูลประจำปี 2563 (แบบ 56-1 One Report) และรายงานความยั่งยืนประจำปี 2563
- หน้าที่และความรับผิดชอบของคณะกรรมการเฉพาะเรื่องของ ปตท.สผ.
- นิยามกรรมการอิสระของ ปตท.สผ.
- ข้อมูลของผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อเพื่อเลือกตั้งเป็นกรรมการ ปตท.สผ.
- เอกสารและหลักฐานที่ผู้เข้าร่วมประชุมต้องแสดงก่อนเข้าร่วมประชุมและการมอบฉันทะ
- ซองตอบรับ (จัดส่งไปกับเล่มหนังสือเชิญประชุม)
- หนังสือมอบฉันทะแบบ ก., แบบ ข. และ แบบ ค.
- รายชื่อและรายละเอียดเกี่ยวกับกรรมการอิสระเพื่อประกอบการมอบฉันทะของผู้ถือหุ้น
- ข้อบังคับบริษัท พระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด และพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เกี่ยวกับการประชุมผู้ถือหุ้นและการออกเสียงลงคะแนน
- แบบฟอร์มขอรับรายงานประจำปี แบบแสดงรายการข้อมูลประจำปี 2563 (แบบ 56-1 One Report) และรายงานความยั่งยืนประจำปี 2563 ในรูปแบบหนังสือ
- แนวปฏิบัติในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของ ปตท.สผ. สำหรับการประชุมผู้ถือหุ้น
- ขั้นตอนการเข้าร่วมการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2564
- แผนที่แสดงสถานที่ประชุม
- มาตรการและแนวปฏิบัติในการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) และแบบสอบถามทางสุขภาพ เพื่อการคัดกรองโรค COVID-19
บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. ขอเชิญประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2564 ในวันพฤหัสบดีที่ 8 เมษายน 2564 เวลา 9.30 น. ณ ห้องบางกอกคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ ชั้น 5 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลลาดพร้าว (ฝั่งพลาซ่า) เลขที่ 1695 ถนนพหลโยธิน เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900 โดย ปตท.สผ. กำหนดให้วันที่ 2 มีนาคม 2564 เป็นวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้น (Record Date) ที่มีสิทธิเข้าร่วมประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2564 และมีระเบียบวาระการประชุม ดังนี้
ระเบียบวาระที่ 1 รับทราบผลการดำเนินงานประจำปี 2563 และแผนงานประจำปี 2564
ข้อมูลประกอบ :
ผลการดำเนินงานประจำปี 2563 มีรายละเอียดดังปรากฏในสิ่งที่ส่งมาด้วย 1 โดยแผนงานประจำปี 2564 จะนำเสนอในวันประชุม
ความเห็นของคณะกรรมการ :
ที่ประชุมผู้ถือหุ้นสมควรรับทราบผลการดำเนินงานประจำปี 2563 โดยมีตัวเลขทางการเงินและรายละเอียดต่าง ๆ ในรายงานประจำปี แบบแสดงรายการข้อมูลประจำปี 2563 (แบบ 56-1 One Report)และรายงานความยั่งยืนประจำปี 2563 ของ ปตท.สผ. รวมถึงรับทราบแผนงานประจำปี 2564 ของ ปตท.สผ. ด้วย โดยจะนำเสนอในวันประชุม
ระเบียบวาระที่ 2 พิจารณาอนุมัติงบการเงินประจำปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2563
ข้อมูลประกอบ :
งบการเงินของ ปตท.สผ. ประจำปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2563 ได้ผ่านการตรวจสอบจากผู้สอบบัญชี รวมทั้งผ่านการสอบทานจากคณะกรรมการตรวจสอบและผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการบริษัทแล้ว ดังปรากฏรายละเอียดในสิ่งที่ส่งมาด้วย 1 โดยสรุปสาระสำคัญเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมาดังนี้
รายการ | ล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกา | ล้านบาท | ||
---|---|---|---|---|
2563 | 2562 | 2563 | 2562 | |
สินทรัพย์รวม |
22,493 |
22,285 |
675,637 |
671,990 |
หนี้สินรวม |
10,694 |
10,444 |
321,226 |
314,931 |
ส่วนของผู้ถือหุ้นรวม |
11,799 |
11,841 |
354,411 |
357,059 |
รายได้รวม |
5,357 |
6,413 |
167,418 |
198,822 |
กำไรสำหรับปี |
720 |
1,569 |
22,664 |
48,803 |
กำไรต่อหุ้นขั้นพื้นฐาน |
0.18 (ดอลลาร์ สรอ./ หุ้น) |
0.38 (ดอลลาร์ สรอ./ หุ้น) |
5.65 (บาท/หุ้น) |
11.72 (บาท/หุ้น) |
ความเห็นของคณะกรรมการ :
ที่ประชุมผู้ถือหุ้นสมควรอนุมัติงบการเงินประจำปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2563 ของ ปตท.สผ. ซึ่งผ่านการตรวจสอบจากผู้สอบบัญชี และผ่านการสอบทานจากคณะกรรมการตรวจสอบ รวมทั้งคณะกรรมการ ปตท.สผ. ได้เห็นชอบแล้ว
ระเบียบวาระที่ 3 พิจารณาการจ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานประจำปี 2563
ข้อมูลประกอบ :
นโยบายการจ่ายเงินปันผลของ ปตท.สผ. กำหนดไว้ว่าหากไม่มีความจำเป็นอันใด ปตท.สผ. จะจ่ายเงินปันผลแก่ผู้ถือหุ้นเป็นจำนวนไม่น้อยกว่าร้อยละ 30 ของกำไรสุทธิหลังจากหักภาษีเงินได้แล้วในแต่ละปี และตามพระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด พ.ศ. 2535 มาตรา 115 และ ข้อบังคับบริษัท ข้อ 32 กำหนดว่าคณะกรรมการ ปตท.สผ. อาจพิจารณาจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลให้แก่ผู้ถือหุ้นได้เป็นครั้งคราว หาก ปตท.สผ. มีผลกำไร และรายงานให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นทราบในการประชุมคราวต่อไป
ในปี 2563 ปตท.สผ. และบริษัทย่อย มีรายได้รวม 5,357 ล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกา มีกำไรสุทธิ 720 ล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกา มีสินทรัพย์รวม 22,493 ล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกา หนี้สินรวม 10,694 ล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกา ส่วนของผู้ถือหุ้น 11,799 ล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกา กำไรสะสมที่ยังไม่ได้จัดสรร 7,673 ล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกา และเงินสดคงเหลือซึ่งรวมเงินลงทุนระยะสั้นจำนวน 3,804 ล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกา จากผลประกอบการข้างต้น คณะกรรมการ ปตท.สผ. พิจารณาแล้วเห็นว่า บริษัทสมควรจ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานรวมของกลุ่ม ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2563 ในอัตราหุ้นละ 4.25 บาท คิดเป็นอัตราการจ่ายเงินปันผลประมาณร้อยละ 77 และ Annualized Dividend Yield ที่ร้อยละ 4.33 ซึ่งคาดว่าเป็นผลตอบแทนที่ยอมรับได้ของนักลงทุนและอยู่ในระดับเดียวกับ Industry Peers ประกอบกับ การจ่ายเงินปันผลดังกล่าวสอดคล้องกับนโยบายการจ่ายเงินปันผลของบริษัทฯ และไม่กระทบต่อสภาพคล่อง และโครงสร้างเงินทุนของบริษัท โดยได้คำนึงถึงความต้องการใช้เงินตามแผนการลงทุนต่างๆ แล้ว
ปตท.สผ. ได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลสำหรับงวด 6 เดือนแรกของปี 2563 ในอัตราหุ้นละ 1.50 บาท และจะจ่ายเงินปันผลส่วนที่เหลือของปี 2563 ในอัตราหุ้นละ 2.75 บาท ซึ่งเป็นการจ่ายจากกำไรสะสมที่ยังไม่ได้จัดสรรที่เสียภาษีเงินได้ปิโตรเลียมทั้งจำนวน ให้แก่ผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับเงินปันผลตามที่ปรากฏรายชื่อ ณ วันกำหนดสิทธิผู้ถือหุ้น (Record Date) ในวันที่ 2 มีนาคม 2564 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 26 เมษายน 2564 โดยจะจ่ายเมื่อได้รับการอนุมัติจากที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2564
การจ่ายเงินปันผลเป็นสกุลบาทนั้น อ้างอิงจากผลการดำเนินงานสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอเมริกา และอัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารที่ประกาศโดยธนาคารแห่งประเทศไทย (Weighted-average Interbank Exchange Rate) เฉลี่ย 1 วันทำการก่อนวันประชุมคณะกรรมการบริษัท
ข้อมูลเปรียบเทียบเงินปันผลจ่ายในปีที่ผ่านมาเป็นดังนี้
รายละเอียดการจ่ายเงินปันผล | ปี 2563 | ปี 2562 | ||
---|---|---|---|---|
ดอลลาร์ สรอ. | บาท | ดอลลาร์ สรอ. | บาท | |
1. กำไรสุทธิ (ล้าน) |
720 |
|
1,569 |
|
2. กำไรต่อหุ้นขั้นพื้นฐาน |
0.18 |
|
0.38 |
|
3. สัดส่วนการจ่ายเงินปันผล (ร้อยละ)* |
77 |
|
49 |
|
4. รวมเงินปันผลจ่ายประจำปีต่อหุ้น |
|
4.25 |
|
6.00 |
4.1 เงินปันผลระหว่างกาลงวด 6 เดือนแรก |
|
1.50 |
|
2.25 |
4.2 เงินปันผลส่วนที่เหลือ |
|
2.75 |
|
3.75 |
5. รวมเป็นเงินปันผลจ่ายทั้งสิ้น (ล้าน) |
|
16,872 |
|
23,820 |
6. จำนวนหุ้น (ล้านหุ้น) |
|
|
||
6.1 จำนวนหุ้นที่จ่ายเงินปันผลระหว่างกาล |
3,970 |
3,970 |
||
6.2 จำนวนหุ้นที่จ่ายเงินปันผลส่วนที่เหลือ |
3,970 |
3,970 |
*หมายเหตุ: อัตราการจ่ายเงินปันผลคำนวณจาก Weighted-average Interbank Exchange Rate เฉลี่ย 1 วันทำการ ก่อนวันประชุมคณะกรรมการบริษัท
ความเห็นของคณะกรรมการ :
ที่ประชุมผู้ถือหุ้นสมควรรับทราบการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล และอนุมัติการจ่ายเงินปันผลประจำปี 2563 ในอัตราหุ้นละ 4.25 บาท ทั้งนี้ ปตท.สผ. ได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลสำหรับงวด 6 เดือนแรกของปี 2563 ไปแล้วเมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2563 ในอัตราหุ้นละ 1.50 บาท (จากกำไรสะสมที่ยังไม่ได้จัดสรรที่เสียภาษีเงินได้ปิโตรเลียม) โดยจะจ่ายเงินปันผลส่วนที่เหลือของปี 2563 ในอัตราหุ้นละ 2.75 บาท ซึ่งเป็นการจ่ายจากกำไรสะสมที่ยังไม่ได้จัดสรรที่เสียภาษีเงินได้ปิโตรเลียมทั้งจำนวน ให้แก่ผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับเงินปันผลตามที่ปรากฏรายชื่อ ณ วันกำหนดสิทธิผู้ถือหุ้น (Record Date) ในวันที่ 2 มีนาคม 2564 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 26 เมษายน 2564 โดยจะจ่ายเมื่อได้รับอนุมัติจากที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2564
ระเบียบวาระที่ 4 พิจารณาแต่งตั้งผู้สอบบัญชี และกำหนดค่าตอบแทนผู้สอบบัญชีประจำปี 2564
ข้อมูลประกอบ :
ปตท.สผ. ถือเป็นหน่วยรับตรวจของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน พ.ศ. 2561 และเป็นหน่วยงานของรัฐ ตามพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 (พรบ. วินัยการเงินการคลังฯ) สตง. จึงมีอำนาจและหน้าที่ในการตรวจสอบงบการเงินของ ปตท.สผ.
ในระหว่างปี 2562 สตง. ได้มีหนังสือให้ ปตท.สผ. จัดหาบุคคลภายนอกเป็นผู้สอบบัญชี โดยอ้างอิงตามมาตรา 71 แห่ง พรบ. วินัยการเงินการคลังฯ ที่กำหนดให้ สตง. หรือผู้สอบบัญชีที่ สตง. เห็นชอบตรวจสอบรายงานการเงินของหน่วยงานของรัฐ ปตท.สผ. จึงได้ดำเนินการจัดหาและแต่งตั้งผู้สอบบัญชีจากบริษัท ไพร้ซวอเตอร์เฮาส์คูเปอร์ส เอบีเอเอส จำกัด (PwC) เป็นผู้สอบบัญชีสำหรับงบการเงินประจำปี 2563
ในการจัดหาผู้สอบบัญชีของบริษัท คณะกรรมการตรวจสอบได้พิจารณาคุณสมบัติผู้สอบบัญชี โดยพิจารณาทั้งในด้านคุณภาพ (Technical) ซึ่งพิจารณาจากประสบการณ์ คุณสมบัติของผู้สอบบัญชี รวมทั้งด้านราคา (Commercial) เห็นว่า PwC เป็นสำนักงานสอบบัญชีที่มีความน่าเชื่อถือ มีผลงานดี มีบุคลากรที่เพียงพอ มีความรู้ความสามารถ จึงให้ความเห็นต่อคณะกรรมการ ปตท.สผ. เพื่อเสนอผู้ถือหุ้นอนุมัติให้แต่งตั้งผู้สอบบัญชีจาก PwC ดังต่อไปนี้ เป็นผู้สอบบัญชีของ ปตท.สผ. ประจำปี 2564
(1) นางสาวอมรรัตน์ เพิ่มพูนวัฒนาสุข* ผู้สอบบัญชีรับอนุญาต เลขที่ 4599 หรือ
(2) นายบุญเรือง เลิศวิเศษวิทย์ ผู้สอบบัญชีรับอนุญาต เลขที่ 6552
* หมายเหตุ: นางสาวอมรรัตน์ เพิ่มพูนวัฒนาสุข เป็นผู้รับผิดชอบในการตรวจสอบและแสดงความเห็นต่องบการเงินของ ปตท.สผ. ประจำปี 2563 (จำนวน 1 ปี)
โดยให้คนใดคนหนึ่งเป็นผู้ทำการตรวจสอบและแสดงความเห็นต่องบการเงินของ ปตท.สผ. โดยมีค่าสอบบัญชีประจำปี 2564 จำนวน 8,900,000 บาท ซึ่งเป็นอัตราเดียวกับค่าสอบบัญชีปี 2563
ทั้งนี้ สตง. ได้เห็นชอบให้ผู้สอบบัญชีจาก PwC ที่เสนอมาข้างต้นเป็นผู้สอบบัญชีสำหรับงบการเงินประจำปี 2564 ของ ปตท.สผ. นอกจากนี้ ผู้สอบบัญชีที่เสนอแต่งตั้งมีคุณสมบัติสอดคล้องกับประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ และไม่มีความสัมพันธ์หรือส่วนได้เสียกับ ปตท.สผ. บริษัทย่อย ผู้บริหาร ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ หรือผู้ที่เกี่ยวข้องกับบุคคลดังกล่าวแต่อย่างใด จึงมีความเป็นอิสระในการตรวจสอบและแสดงความเห็นต่องบการเงินของ ปตท.สผ. สำหรับบริษัทย่อยบางบริษัทที่ถูกตรวจสอบโดยผู้สอบบัญชีอื่น คณะกรรมการจะดูแลให้สามารถจัดทำงบการเงินให้ทันตามกำหนดระยะเวลา
สำหรับปี 2563 ปตท.สผ. มีค่าตอบแทนของงานบริการอื่น (Non – Audit Service Fee) ให้ PwC จำนวน 20,754,984 บาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นค่าตอบแทนในการจัดทำ Comfort Letter เพื่อแผนการบริหารจัดการหนี้สินของกลุ่มบริษัทสำหรับหุ้นกู้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอเมริกาที่ออกและเสนอขายให้กับนักลงทุนต่างประเทศ ในขณะที่ปี 2562 มีค่าตอบแทนของงานบริการอื่น (Non – Audit Service Fee) สำหรับค่าตอบแทนในการจัดทำ Comfort Letter ให้ สตง. จำนวน 15,000,000 บาท
ความเห็นของคณะกรรมการ :
ที่ประชุมผู้ถือหุ้นสมควรอนุมัติแต่งตั้งผู้สอบบัญชีจากบริษัท ไพร้ซวอเตอร์เฮาส์คูเปอร์ส เอบีเอเอส จำกัด ได้แก่ นางสาวอมรรัตน์ เพิ่มพูนวัฒนาสุข ผู้สอบบัญชีรับอนุญาต เลขที่ 4599 หรือ นายบุญเรือง เลิศวิเศษวิทย์ ผู้สอบบัญชีรับอนุญาต เลขที่ 6552 เป็นผู้สอบบัญชีของ ปตท.สผ. ประจำปี 2564 และกำหนดค่าสอบบัญชีประจำปี 2564 จำนวน 8,900,000 บาท ตามข้อเสนอของคณะกรรมการตรวจสอบและคณะกรรมการ ปตท.สผ. ที่ได้เห็นชอบด้วยแล้ว
ระเบียบวาระที่ 5 พิจารณาค่าตอบแทนสำหรับคณะกรรมการและคณะกรรมการเฉพาะเรื่อง
ข้อมูลประกอบ :
ตามพระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด พ.ศ. 2535 กำหนดให้การจ่ายค่าตอบแทนให้กรรมการเป็นไปตามมติของที่ประชุมผู้ถือหุ้น และในปี 2564 คณะกรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทนได้พิจารณาเปรียบเทียบค่าตอบแทนสำหรับคณะกรรมการและคณะกรรมการเฉพาะเรื่องกับกลุ่มบริษัทชั้นนำในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET 50) และบริษัทในกลุ่ม ปตท. แล้ว พบว่า ค่าตอบแทนรายเดือน เบี้ยประชุม และโบนัสกรรมการ มีความเหมาะสม สอดคล้องกับค่าตอบแทนของกลุ่มบริษัทชั้นนำในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET 50) และบริษัทในกลุ่ม ปตท. แล้ว จึงเห็นสมควรให้คงค่าตอบแทนทุกรายการในอัตราเท่าเดิม ตามมติที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2563 รายละเอียดดังนี้
ค่าตอบแทนรายเดือน เบี้ยประชุม โบนัส และผลประโยชน์อื่นใด
องค์ประกอบค่าตอบแทน(1) | ปี 2564 (ปีที่เสนอ) | ปี 2563 |
---|---|---|
1. ค่าตอบแทนกรรมการบริษัท | ||
1.1 ค่าตอบแทนรายเดือน (จ่ายเต็มเดือน) | บาท/คน/เดือน | บาท/คน/เดือน |
• ประธานกรรมการ | 50,000 | 50,000 |
• กรรมการ | 40,000 | 40,000 |
1.2 เบี้ยประชุม (เฉพาะกรรมการที่เข้าประชุม) | บาท/คน/ครั้ง | บาท/คน/ครั้ง |
• ประธานกรรมการ | 62,500 | 62,500 |
• กรรมการ | 50,000 | 50,000 |
2. ค่าตอบแทนกรรมการเฉพาะเรื่องตามข้อบังคับบริษัท | ||
2.1 เบี้ยประชุม (เฉพาะกรรมการที่เข้าประชุม) | บาท/คน/ครั้ง | บาท/คน/ครั้ง |
• ประธานกรรมการเฉพาะเรื่อง | 56,250 | 56,250 |
• กรรมการ | 45,000 | 45,000 |
3. ผลประโยชน์อื่นใด | ไม่มี | ไม่มี |
4. โบนัสกรรมการ(2) | ร้อยละ 0.2 ของกำไรสุทธิ โดยมีวงเงินสูงสุดไม่เกิน 60 ล้านบาท |
ร้อยละ 0.2 ของกำไรสุทธิ โดยมีวงเงินสูงสุดไม่เกิน 60 ล้านบาท |
*หมายเหตุ: (1) ประธานกรรมการได้รับค่าตอบแทนทุกรายการสูงขึ้นร้อยละ 25 (2) โบนัสกรรมการ: ให้คณะกรรมการบริษัทได้รับโบนัสในอัตราร้อยละ 0.2 ของกำไรสุทธิจากงบการเงินรวมประจำปีของบริษัทที่ได้รับอนุมัติจากผู้ถือหุ้นในแต่ละปี ถ้ามีการจ่ายเงินปันผลให้แก่ ผู้ถือหุ้น โดยจ่ายตามระยะเวลาในการดำรงตำแหน่งกรรมการ และมีวงเงินสูงสุดไม่เกิน 60 ล้านบาท โดยประธานกรรมการ ปตท.สผ. จะได้รับโบนัสสูงกว่ากรรมการ ในอัตราร้อยละ 25 |
ทั้งนี้ ในปี 2563 ค่าตอบแทนคณะกรรมการและคณะกรรมการเฉพาะเรื่องของ ปตท.สผ. เป็นจำนวนเงินรวมทั้งสิ้น 74,238,822 บาท ดังมีรายละเอียดค่าตอบแทนเป็นรายบุคคลปรากฏในรายงานประจำปี แบบแสดงรายการข้อมูลประจำปี 2563 (แบบ 56-1 One Report) ตามสิ่งที่ส่งมาด้วย 1 ทั้งนี้ เพื่อหลีกเลี่ยงการมีส่วนได้เสียพิเศษ กรรมการที่เป็นผู้ถือหุ้นและกรรมการอิสระที่ได้รับมอบฉันทะจะไม่ออกเสียงลงคะแนนในระเบียบวาระนี้ (เว้นแต่กรณีผู้ถือหุ้นระบุให้กรรมการอิสระออกเสียงลงคะแนนแทนอย่างชัดเจนโดยใช้หนังสือมอบฉันทะแบบ ข. หรือ ค.)
ความเห็นของคณะกรรมการ :
ที่ประชุมผู้ถือหุ้นสมควรอนุมัติค่าตอบแทนคณะกรรมการและคณะกรรมการเฉพาะเรื่อง ปี 2564 ได้แก่ ค่าตอบแทนรายเดือน เบี้ยประชุม รวมทั้งโบนัสกรรมการประจำปี 2563 ในอัตราเท่าเดิมตามมติที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นปี 2563 ซึ่งคณะกรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทนได้พิจารณากลั่นกรองอย่างเหมาะสมแล้ว และคณะกรรมการ ปตท.สผ. ได้เห็นชอบด้วยแล้ว
ระเบียบวาระที่ 6 พิจารณาเลือกตั้งกรรมการแทนกรรมการที่ออกตามวาระ
ข้อมูลประกอบ :
ตามพระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด พ.ศ. 2535 และข้อบังคับบริษัท ข้อ 11 กำหนดให้กรรมการ ปตท.สผ. ซึ่งอยู่ในตำแหน่งนานที่สุดจำนวน 1 ใน 3 หรือ 5 คน ต้องออกจากตำแหน่ง เนื่องจากครบวาระในการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นของทุกปี ในปี 2564 กรรมการ ปตท.สผ. ที่จะครบวาระมีจำนวน 5 คน เป็นผู้ที่มีคุณสมบัติเป็นกรรมการอิสระตามนิยามกรรมการอิสระของ ปตท.สผ. โดยนิยามกรรมการอิสระของ ปตท.สผ. กำหนดไว้เข้มงวดกว่าข้อกำหนดขั้นต่ำที่คณะกรรมการกำกับตลาดทุนกำหนดในเรื่องการถือหุ้น มีรายละเอียดในข้อ 1 ของนิยามกรรมการอิสระของ ปตท.สผ. ตามสิ่งที่ส่งมาด้วย 3 โดยกรรมการที่ครบวาระ 5 คน มีรายชื่อดังต่อไปนี้
(1) นายไกรฤทธิ์ อุชุกานนท์ชัย - ประธานกรรมการและกรรมการอิสระ
(2) พลเรือเอก ธนะรัตน์ อุบล - รองประธานกรรมการอิสระ, ประธานกรรมการบรรษัทภิบาลและการพัฒนาอย่างยั่งยืน และกรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทน
(3) นายปิติพันธ์ เทพปฏิมากรณ์ - กรรมการอิสระ, กรรมการบริหารความเสี่ยง, กรรมการบรรษัทภิบาลและการพัฒนาอย่างยั่งยืน และกรรมการ สรรหาและกำหนดค่าตอบแทน
(4) นายบัณฑิต เอื้ออาภรณ์ - กรรมการอิสระ และประธานกรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทน
(5) นางอังครัตน์ เพรียบจริยวัฒน์ - กรรมการอิสระ, กรรมการตรวจสอบ และกรรมการบรรษัทภิบาลและการพัฒนาอย่างยั่งยืน
ในการสรรหากรรมการ ปตท.สผ. ได้ประกาศเชิญผู้ถือหุ้นเสนอชื่อบุคคลที่เห็นว่ามีคุณสมบัติเหมาะสมเพื่อรับการคัดเลือกเป็นกรรมการ ปตท.สผ. ในช่วงระหว่างวันที่ 1 กันยายน – 30 พฤศจิกายน 2563 โดยเผยแพร่ผ่านระบบข่าวของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และเผยแพร่บนเว็บไซต์ของ ปตท.สผ. แต่ไม่มีผู้ถือหุ้นรายใดเสนอชื่อบุคคลที่เห็นว่ามีคุณสมบัติเหมาะสมในการเป็นกรรมการมายัง ปตท.สผ. แต่อย่างใด
คณะกรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทนได้ดำเนินการสรรหากรรมการโดยพิจารณาถึง Skill Mix ตามองค์ประกอบของคณะกรรมการ ปตท.สผ. คุณสมบัติ ทักษะ ประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญ วาระการดำรงตำแหน่ง รวมถึงรายชื่อบุคคลตามบัญชีรายชื่อคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจของสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ และข้อเสนอของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ผู้ถือหุ้นใหญ่ และได้ผ่านกระบวนการกลั่นกรองของคณะกรรมการ ปตท.สผ. แล้วว่าเป็นผู้มีคุณสมบัติเหมาะสมกับการประกอบธุรกิจของ ปตท.สผ. จึงเห็นสมควรเสนอชื่อบุคคลทั้ง 5 ท่าน เข้าเป็นกรรมการ ปตท.สผ. และเสนอที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2564 พิจารณาเลือกตั้งแทนกรรมการที่ครบวาระในปี 2564 ต่อไป ดังนี้
(1) นายไกรฤทธิ์ อุชุกานนท์ชัย - ดำรงตำแหน่งต่ออีกวาระหนึ่ง
(2) พลเรือเอก ธนะรัตน์ อุบล - ดำรงตำแหน่งต่ออีกวาระหนึ่ง
(3) นายปิติพันธ์ เทพปฏิมากรณ์ - ดำรงตำแหน่งต่ออีกวาระหนึ่ง
(4) นายบัณฑิต เอื้ออาภรณ์ - ดำรงตำแหน่งต่ออีกวาระหนึ่ง
(5) นางอังครัตน์ เพรียบจริยวัฒน์ - ดำรงตำแหน่งต่ออีกวาระหนึ่ง
โดยเห็นว่าบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อทั้ง 5 คน เหมาะสมที่จะได้รับการพิจารณาเลือกตั้งให้เป็นกรรมการ ปตท.สผ. อีกวาระหนึ่ง เนื่องจากเป็นผู้ที่มีความรู้ความเข้าใจในธุรกิจปิโตรเลียมที่มีลักษณะเป็นธุรกิจเฉพาะ มีความเข้าใจยุทธศาสตร์พลังงานและเข้าใจการดำเนินธุรกิจของ ปตท.สผ. อีกทั้งเป็นผู้มีความรู้ความชำนาญด้านการบัญชีและบริหารการเงิน และมีประสบการณ์ในการบริหารพัฒนาองค์กรขนาดใหญ่ที่มีความซับซ้อน มีส่วนสำคัญในการผลักดันการปรับเปลี่ยนธุรกิจและองค์กรเพื่อรองรับการขยายตัวทางธุรกิจ สนับสนุนและผลักดันให้องค์กรเตรียมพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงทั้งในด้านเทคโนโลยี รูปแบบการทำงานที่เหมาะสม แข่งขันได้ เน้นการปรับวัฒนธรรมองค์กร เพื่อตอบสนองการเปลี่ยนแปลงให้ทันต่อสถานการณ์และโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ และมุ่งเน้นให้การดำเนินการบรรลุตามแผนงานและเป้าหมายที่ตั้งไว้ (“Execute”) โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ ปตท.สผ. เป็นองค์กรในระดับสากลอย่างเป็นรูปธรรม (International Company) และเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว การพิจารณาให้บุคคลทั้ง 5 ดำรงตำแหน่งกรรมการ ปตท.สผ. อีกวาระหนึ่ง จึงเป็นประโยชน์ในการสานต่อให้การดำเนินงานเป็นไปตามแผนกลยุทธ์ของ ปตท.สผ. ต่อไป
(1) นายไกรฤทธิ์ อุชุกานนท์ชัย เป็นกรรมการ ปตท.สผ. ต่ออีกหนึ่งวาระ เนื่องจากเป็นผู้ที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ในภาคธุรกิจ มีความชำนาญในการบริหารองค์กรขนาดใหญ่ที่มีความซับซ้อน มีความรู้ความเข้าใจในธุรกิจพลังงานอย่างครบวงจร เข้าใจแผนยุทธศาสตร์พลังงานในภาพรวมเป็นอย่างดี สามารถผลักดันให้ ปตท.สผ จัดทำแผนกลยุทธ์องค์กร และการบริหารความเสี่ยงองค์กรได้อย่างเหมาะสม พร้อมรองรับโอกาสทางธุรกิจใหม่ ทั้งที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียมและธุรกิจใหม่ รวมถึงการสร้างมูลค่าเพิ่มจากโครงการปัจจุบัน เพื่อให้องค์กรเติบโตได้อย่างยั่งยืน
(2) พลเรือเอก ธนะรัตน์ อุบล เป็นกรรมการ ปตท.สผ. ต่ออีกหนึ่งวาระ เนื่องจากเป็นผู้มีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านความมั่นคง ปลอดภัย โดยเฉพาะความมั่นคงทางทะเล ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการวางยุทธศาสตร์เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องกับทางทะเลของ ปตท.สผ. นอกจากนี้ เป็นผู้มีประสบการณ์และมีวิสัยทัศน์ให้ ปตท.สผ. เป็นองค์กรชั้นนำระดับสากล มุ่งเน้นให้ ปตท.สผ. เติบโตอย่างยั่งยืนด้วยการเป็นองค์กรที่ เก่ง และ ดี โดยมีความเป็นเลิศในการดำเนินธุรกิจ มีการกำกับดูแลกิจการที่ดีและเป็นไปตามกลยุทธ์การพัฒนาอย่างยั่งยืนของ ปตท.สผ.
(3) นายปิติพันธ์ เทพปฏิมากรณ์ เป็นกรรมการ ปตท.สผ. ต่ออีกหนึ่งวาระ เนื่องจากเป็นผู้ที่มีความรู้ ความสามารถ และความเชี่ยวชาญในด้านการบริหารบุคคลและการบริหารจัดการองค์กรในธุรกิจพลังงานอย่างต่อเนื่อง เคยดำรงตำแหน่งรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ด้านทรัพยากรบุคคลและศักยภาพองค์กร และประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ กลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นต้น และก๊าซธรรมชาติ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) รวมถึงดำรงตำแหน่งกรรมการในองค์กรชั้นนำของไทย เป็นประโยชน์แก่ ปตท.สผ. ในการวางกลยุทธ์ด้านการพัฒนาบุคคลเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงธุรกิจและองค์กร การเปลี่ยนผ่านสิทธิในการเป็นผู้ดำเนินโครงการที่ได้มาใหม่ และการเติบโตของ ปตท.สผ. ในอนาคต
(4) นายบัณฑิต เอื้ออาภรณ์ เป็นกรรมการ ปตท.สผ. ต่ออีกหนึ่งวาระ เนื่องจากเป็นผู้ที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ ทางด้านวิศวกรรม เทคโนโลยี และให้ความสำคัญกับการสร้างนวัตกรรม โดยมุ่งสร้างนวัตกรรมเพื่อสามารถสร้างมูลค่าและคุณค่าจากทรัพยากรที่มีอยู่ และยังเป็นผู้ที่ให้ความสำคัญกับ “คน” โดยเน้นการ “พัฒนาคน” และการสร้างและส่งเสริม “คน” ให้ทำงานได้อย่างเต็มศักยภาพ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อ ปตท.สผ. ในการพัฒนาบุคคลากรให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อการปรับเปลี่ยนองค์กรในสภาวการณ์ที่มีความผันผวนของธุรกิจพลังงานในปัจจุบัน
(5) นางอังครัตน์ เพรียบจริยวัฒน์ เป็นกรรมการ ปตท.สผ. ต่ออีกหนึ่งวาระ เนื่องจากเป็นผู้ที่มีความรู้ ความสามารถ และความเชี่ยวชาญในด้านบัญชี การเงิน อย่างดียิ่ง มีประสบการณ์ทำงานด้านบัญชีและการเงินมาอย่างต่อเนื่อง โดยดำรงตำแหน่งกรรมการอิสระและกรรมการตรวจสอบของบริษัทการเงินชั้นนำ รวมถึงดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย จึงมีความรู้ความเข้าใจในหลักเกณฑ์ กฎเกณฑ์และข้อกำหนดที่เกี่ยวข้องกับบริษัทจดทะเบียนเป็นอย่างดี ส่งเสริมให้ ปตท.สผ. ดำเนินธุรกิจและบริหารจัดการองค์กรให้มีการดำเนินงานอย่างถูกต้อง ภายใต้การกำกับดูแลกิจการที่ดี
ทั้งนี้ มีรายละเอียดและวิสัยทัศน์ของผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อเป็นกรรมการทั้ง 5 คน ดังสิ่งที่ส่งมาด้วย 4
ความเห็นของคณะกรรมการ :
ที่ประชุมผู้ถือหุ้นสมควรอนุมัติเลือกตั้งกรรมการ 5 คน ได้แก่ (1) นายไกรฤทธิ์ อุชุกานนท์ชัย (2) พลเรือเอก ธนะรัตน์ อุบล (3) นายปิติพันธ์ เทพปฏิมากรณ์ (4) นายบัณฑิต เอื้ออาภรณ์ (5) นางอังครัตน์ เพรียบจริยวัฒน์ ตามข้อเสนอของคณะกรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทนที่ได้พิจารณากลั่นกรองอย่างเหมาะสมแล้ว โดยจะเป็นกรรมการอิสระทั้ง 5 คน ตามคุณสมบัติที่สอดคล้องกับคำนิยามกรรมการอิสระของ ปตท.สผ. และคณะกรรมการ ปตท.สผ. ได้เห็นชอบให้นำเสนอต่อคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) เพื่อให้ความเห็นชอบตามที่กำหนดในระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการกำหนดนโยบายและกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจ โดย คนร. ได้ให้ความเห็นชอบเรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2564 ทั้งนี้ กรรมการที่มีส่วนได้เสียไม่ได้อยู่ในห้องประชุมและไม่ได้ออกเสียงในที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท
คณะกรรมการ ปตท.สผ. ได้พิจารณาแล้วว่าบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อให้เป็นกรรมการอิสระสามารถให้ความเห็นได้อย่างเป็นอิสระและเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง
ระเบียบวาระที่ 7 เรื่องอื่น ๆ (ถ้ามี)
ข้อมูลประกอบ :
ตามพระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด พ.ศ. 2535 นอกจากระเบียบวาระต่าง ๆ ข้างต้นแล้ว ผู้ถือหุ้นซึ่งมีหุ้นนับรวมกันได้ไม่น้อยกว่าหนึ่งในสามของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้ทั้งหมด จะขอให้ที่ประชุมพิจารณาเรื่องอื่นนอกจากที่ได้กำหนดไว้ในหนังสือนัดประชุมอีกก็ได้
ความเห็นของคณะกรรมการ :
ที่ประชุมผู้ถือหุ้นไม่สมควรพิจารณาเรื่องอื่น ๆ อีก เนื่องจากตามหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดีสำหรับบริษัทจดทะเบียนปี 2560 และโครงการประเมินคุณภาพการจัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี ที่ประชุมสมควรพิจารณาปรึกษาหารือกันเฉพาะเรื่องที่มีการแจ้งไว้ล่วงหน้าเท่านั้น เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับผู้ถือหุ้นทั้งหมดโดยรวม
ปตท.สผ. มีความตระหนักและห่วงใยต่อสุขภาพและความปลอดภัยของผู้เข้าร่วมประชุมทุกท่าน และขอให้ทุกท่านปฏิบัติตามมาตรการและแนวปฏิบัติการประชุมภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 ตามสิ่งที่ส่งมาด้วย 14 อย่างเคร่งครัด โดยขอความร่วมมือผู้ถือหุ้นมอบฉันทะให้กรรมการอิสระของ ปตท.สผ. ตามรายชื่อในสิ่งที่ส่งมาด้วย 8 และรับชมถ่ายทอดสดการประชุม (Live Broadcast) ผ่านช่องทางเว็บไซต์ของบริษัท โดยผู้ถือหุ้นสามารถส่งหนังสือมอบฉันทะและหลักฐานตามสิ่งที่ส่งมาด้วย 1, 5 และ 7 ใส่ซองไปรษณีย์ตอบรับ (ไม่ต้องติดแสตมป์) มายัง ปตท.สผ. ภายในวันที่ 7 เมษายน 2564 และสามารถแจ้งคำถามล่วงหน้าได้ที่ CorporateSecretary@pttep.com หรือโทรสารหมายเลข 0-2537-4500
สำหรับผู้ถือหุ้นที่ประสงค์จะเข้าประชุมด้วยตนเอง บริษัทจะเปิดให้ลงทะเบียนเพื่อเข้าประชุมตั้งแต่เวลา 7.30 น. โดยประธานกรรมการมอบหมายให้เจ้าหน้าที่รับลงทะเบียนเป็นผู้รับหนังสือมอบฉันทะแทนประธานกรรมการ และขอให้ท่านนำเอกสารและหลักฐานตามสิ่งที่ส่งมาด้วย 1, 5 และ 7 มาแสดงเพื่อความสะดวกรวดเร็วในการลงทะเบียนเข้าประชุม โดย ปตท.สผ. แนะนำให้ใช้หนังสือมอบฉันทะแบบ ข. และเพื่อความปลอดภัยและสุขอนามัยของทุกท่าน บริษัทจำเป็นต้องจัดสถานที่ประชุมให้มีระยะห่างทางสังคม ซึ่งจะทำให้จำนวนที่นั่งในห้องประชุมมีจำกัด และไม่เกิน 300 ที่นั่งตามที่กฎหมายกำหนดและต้องมีการตรวจคัดกรองทุกท่านอย่างเคร่งครัด จึงอาจทำให้เกิดความล่าช้าในการคัดกรองและการลงทะเบียนเข้าร่วมประชุม บริษัทต้องขออภัยในความไม่สะดวกมา ณ โอกาสนี้
อนึ่ง การประชุมในครั้งนี้จัดขึ้นในรูปแบบ Sustainable Event และสอดคล้องกับแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) โดยคำนึงถึงการใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุดและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดย ปตท.สผ. ได้จัดทำรายงานประจำปี แบบแสดงรายการข้อมูลประจำปี 2563 (แบบ 56-1 One Report) และรายงานความยั่งยืนประจำปี 2563 ในรูปแบบ QR Code เพื่อลดการใช้กระดาษ อย่างไรก็ดี หากผู้ถือหุ้นต้องการรับรายงานดังกล่าวในรูปแบบหนังสือ สามารถลงทะเบียนขอรับเอกสารผ่านช่องทาง QR Code ในแบบฟอร์มตามสิ่งที่ส่งมาด้วย 10 เพื่อจัดส่งให้แก่ท่านต่อไป
จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ
ขอแสดงความนับถือ
พงศธร ทวีสิน
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สายงานเลขานุการบริษัท ปตท.สผ. :
- นางสาวพิมพ์สุดา ศิริโชติ โทร. 0-2537-4832 หรือ
- นางสาวพรทิพา ขันธวิไชย โทร. 0-2537-4819
- นางฉัตราพรรณ ชีวานนท์ โทร. 0-2537-5310
- นางสาวนิชชา น้ำทิพย์ โทร. 0-2537-4611
เอกสารที่เกี่ยวข้อง
การเสนอระเบียบวาระการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นและชื่อกรรมการล่วงหน้า
“ระเบียบวาระการประชุม” หมายความว่า ระเบียบวาระการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2564 ของ ปตท.สผ.
“คณะกรรมการ” หมายความว่า คณะกรรมการ ปตท.สผ.
“กรรมการ” หมายความว่า กรรมการ ปตท.สผ.
3.1 เป็นผู้ถือหุ้นของบริษัท ณ วันที่เสนอระเบียบวาระการประชุมหรือเสนอชื่อกรรมการ โดยอาจเป็นผู้ถือหุ้นรายเดียวหรือหลายรายรวมกันก็ได้ และ
3.2 มีสัดส่วนการถือหุ้นขั้นต่ำไม่น้อยกว่า 100,000 หุ้น
(1) | ต้องเสนอโดยผู้ถือหุ้นที่มีคุณสมบัติครบถ้วนตามข้อ 3 |
(2) | ต้องกรอก “แบบเสนอระเบียบวาระการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2564 (แบบ ก.)” และส่งต้นฉบับของแบบ ก. พร้อมเอกสารหลักฐานที่บริษัทกำหนดให้ถึงบริษัทภายในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2563 เพื่อให้คณะกรรมการมีเวลาเพียงพอในการพิจารณาระเบียบวาระการประชุม ทั้งนี้ สามารถส่งอย่างไม่เป็นทางการทางโทรสาร หมายเลข 0-2537-4500 หรือทางจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (Email) corporatesecretary@pttep.com ก่อนได้ |
(3) | กรณีผู้ถือหุ้นหลายรายรวมกันเสนอระเบียบวาระการประชุมผู้ถือ หุ้นผู้ถือหุ้นทุกรายต้องกรอก “แบบ ก.” และลงชื่อไว้เป็นหลักฐาน แล้วรวมส่งเป็นชุดเดียวกัน |
4.2 วิธีการพิจารณา
(1) | คณะกรรมการจะเป็นผู้พิจารณาความเหมาะสมของระเบียบวาระการประชุมที่ผู้ถือหุ้นเสนอ ซึ่งจะต้องไม่มีลักษณะดังนี้ | |
(1.1) | เรื่องที่กำหนดในมาตรา 89/28 ของพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ที่แก้ไขเพิ่มเติม [1] | |
(1.2) | เรื่องที่ขัดกับกฎหมาย ประกาศ และระเบียบต่าง ๆ ของหน่วยงานราชการ หรือหน่วยงานที่กำกับดูแลบริษัท หรือไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ ข้อบังคับ มติที่ประชุมผู้ถือหุ้น และการกำกับดูแลกิจการที่ดีและจริยธรรมธุรกิจของกลุ่ม ปตท.สผ. | |
(1.3) | เรื่องที่บริษัทได้ดำเนินการแล้ว | |
(1.4) | เรื่องที่ผู้ถือหุ้นให้ข้อมูลไม่ครบถ้วน หรือไม่ถูกต้อง หรือไม่สามารถติดต่อได้ หรือไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่บริษัทกำหนด | |
ทั้งนี้ เว้นแต่คณะกรรมการจะพิจารณาเป็นอย่างอื่น และให้คำวินิจฉัยของคณะกรรมการถือเป็นที่สุด | ||
(2) | เรื่องที่ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการจะบรรจุเป็นระเบียบวาระการประชุม พร้อมทั้งความเห็นของคณะกรรมการ | |
(3) | เรื่องที่ไม่ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการ บริษัทจะแจ้งให้ผู้ถือหุ้นทราบพร้อมชี้แจงเหตุผลผ่านช่องทางของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยหรือช่องทางอื่นที่เหมาะสม และแจ้งเป็นระเบียบวาระเพื่อทราบในการประชุมผู้ถือหุ้นด้วย |
[1] | (1) | เป็นเรื่องที่ไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดในวรรคหนึ่งของมาตรา 89/28 |
(2) | เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจปกติของบริษัท และข้อเท็จจริงที่กล่าวอ้างโดยผู้ถือหุ้นมิได้แสดงถึงเหตุอันควรสงสัยเกี่ยวกับความไม่ปกติของเรื่องดังกล่าว | |
(3) | เป็นเรื่องที่อยู่นอกเหนืออำนาจที่บริษัทจะดำเนินการให้เกิดผลตามที่ประสงค์ | |
(4) | เป็นเรื่องที่ผู้ถือหุ้นได้เคยเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาแล้วในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมา และเรื่องดังกล่าวได้รับมติสนับสนุนด้วยคะแนนเสียงน้อยกว่าร้อยละ 10 ของจำนวนสิทธิออกเสียงทั้งหมดของบริษัท เว้นแต่ข้อเท็จจริงในการนำเสนอครั้งใหม่จะได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างมีนัยสำคัญจากข้อเท็จจริงในขณะที่นำเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นในครั้งก่อน | |
(5) | กรณีอื่นใดตามที่คณะกรรมการกำกับตลาดทุนประกาศกำหนด |
(1) | ต้องเสนอโดยผู้ถือหุ้นที่มีคุณสมบัติครบถ้วนตามข้อ 3 |
(2) | ต้องกรอก “แบบเสนอชื่อกรรมการ (แบบ ข.)” และ “แบบข้อมูลของบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อเป็นกรรมการ” และส่งต้นฉบับของแบบ ข. และแบบข้อมูลของบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อเป็นกรรมการพร้อมเอกสารหลักฐานที่บริษัทกำหนดให้ถึงบริษัทภายในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2563 เพื่อให้ ปตท.สผ. มีเวลาในการพิจารณากลั่นกรองและตรวจสอบคุณสมบัติก่อนนำเสนอให้คณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) พิจารณาให้ความเห็นชอบรายชื่อกรรมการ |
ทั้งนี้ สามารถส่งอย่างไม่เป็นทางการทางโทรสาร หมายเลข 0-2537-4500 หรือทางจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (Email) corporatesecretary@pttep.com ก่อนได้ | |
(3) | กรณีผู้ถือหุ้นหลายรายรวมกันเสนอชื่อกรรมการ ผู้ถือหุ้นทุกรายต้องกรอก “แบบ ข.” และลงชื่อไว้เป็นหลักฐาน แล้วรวมส่งเป็นชุดเดียวกัน |
5.2 วิธีการพิจารณา
(1) | คณะกรรมการจะเป็นผู้พิจารณาบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อเป็นกรรมการ ซึ่งจะต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้าม ดังนี้ | |
(1.1) | มีคุณสมบัติถูกต้องและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามกฎหมายบริษัทมหาชนจำกัด กฎหมายหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ การกำกับดูแลกิจการที่ดีและจริยธรรมธุรกิจของกลุ่ม ปตท.สผ. และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง | |
(1.2) | มีอายุไม่เกิน 70 ปีบริบูรณ์ (นับถึงสิ้นปี 2564) | |
(1.3) | มีความรู้ ความสามารถ ที่เป็นประโยชน์อย่างสำคัญต่อธุรกิจของบริษัท โดย ปตท.สผ. ได้กำหนด Skill Mix ของคณะกรรมการ ปตท.สผ. สำหรับใช้เป็นกรอบการพิจารณาสรรหากรรมการ โดยในปี 2563 จะให้ความสำคัญในทักษะ 3 ด้าน ได้แก่ ด้านการตลาดและการพาณิชย์ที่เป็นสากล (International Market) ด้านการวางแผนกลยุทธ์ ปรับเปลี่ยนองค์กร เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลง (Organization Change and Development) และด้านกฎหมาย (Legal) โดยพิจารณาความเหมาะสมใน Skill Mix ด้านอื่นที่ยังมีสัดส่วนกรรมการไม่มากตามความจำเป็นและสมควรด้วยส่วนหนึ่ง | |
(1.4) | ไม่ควรดำรงตำแหน่งกรรมการบริษัทจดทะเบียนเกิน 3 บริษัท | |
(1.5) | ไม่เป็นกรรมการในรัฐวิสาหกิจและหรือนิติบุคคลที่รัฐวิสาหกิจเป็นผู้ถือหุ้นเกินกว่า 3 แห่ง | |
(2) | คณะกรรมการจะเสนอรายชื่อบุคคลที่มีคุณวุฒิ และประสบการณ์ที่เหมาะสม รวมถึงมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตาม (1) ต่อคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบตามที่กำหนดไว้ในระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการกำหนดนโยบายและกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. 2557 ข้อ 12 ต่อไป | |
(3) | บุคคลที่ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการหรือคณะกรรมการ นโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) จะได้รับการบรรจุชื่อในระเบียบวาระการประชุม พร้อมทั้งความเห็นของคณะกรรมการและ คนร. (ถ้ามี) | |
(4) | บุคคลที่ไม่ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการหรือคณะกรรมการ นโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) ปตท.สผ. จะแจ้งให้ผู้ถือหุ้นทราบพร้อมชี้แจงเหตุผลผ่านช่องทางของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยหรือช่องทางอื่นที่เหมาะสม และแจ้งเป็นระเบียบวาระเพื่อทราบในการประชุมผู้ถือหุ้นด้วย |