นักลงทุนสัมพันธ์
ข้อมูลประชุมผู้ถือหุ้น
เรื่อง : ขอเชิญประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2562
เรียน : ท่านผู้ถือหุ้น
[วันที่เผยแพร่บนเวปไซต์ : 26 กุมภาพันธ์ 2562]
สิ่งที่ส่งมาด้วย
- รายงานประจำปี 2561 และรายงานความยั่งยืนประจำปี 2561
- หน้าที่และความรับผิดชอบของคณะกรรมการเฉพาะเรื่องของ ปตท.สผ.
- นิยามกรรมการอิสระของ ปตท.สผ.
- ข้อมูลของผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อเพื่อเลือกตั้งเป็นกรรมการ ปตท.สผ.
- เอกสารและหลักฐานที่ผู้เข้าร่วมประชุมต้องแสดงก่อนเข้าร่วมประชุมและการมอบฉันทะ
- หนังสือเชิญประชุม (แบบฟอร์มลงทะเบียนที่มี QR Code)
- หนังสือมอบฉันทะ แบบ ก. , แบบ ข. , แบบ ค.
- รายชื่อและรายละเอียดเกี่ยวกับกรรมการอิสระเพื่อประกอบการมอบฉันทะของผู้ถือหุ้น
- ซองตอบรับ (จัดส่งไปกับเล่มหนังสือเชิญประชุม)
- ข้อบังคับบริษัท พระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด พ.ศ. 2535 และพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 เกี่ยวกับการประชุมผู้ถือหุ้นและการออกเสียงลงคะแนน
- แบบฟอร์มขอรับรายงานประจำปี 2561 และ/หรือ รายงานความยั่งยืนประจำปี 2561 ในรูปแบบหนังสือ
- แผนที่แสดงสถานที่ประชุม
- ขั้นตอนการเข้าร่วมการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2562
บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. ขอเชิญประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2562 ในวันศุกร์ที่ 29 มีนาคม 2562 เวลา 14.00 น. ณ ห้องบางกอกคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ ชั้น 5 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลลาดพร้าว (ฝั่งพลาซ่า) เลขที่ 1695 ถนนพหลโยธิน เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900 โดยมีระเบียบวาระการประชุม ดังนี้
ระเบียบวาระที่ 1 รับทราบผลการดำเนินงานประจำปี 2561 และแผนงานประจำปี 2562
ข้อมูลประกอบ :
ผลการดำเนินงานประจำปี 2561 มีรายละเอียดดังปรากฏในสิ่งที่ส่งมาด้วย 1 โดยแผนงานประจำปี 2562 จะนำเสนอในวันประชุม
ความเห็นของคณะกรรมการ :
ที่ประชุมผู้ถือหุ้นสมควรรับทราบผลการดำเนินงานประจำปี 2561 โดยมีตัวเลขทางการเงินและรายละเอียดต่าง ๆ ในรายงานประจำปี 2561 และรายงานความยั่งยืนประจำปี 2561 ของ ปตท.สผ. รวมถึงรับทราบแผนงานประจำปี 2562 ของ ปตท.สผ. ด้วย โดยจะนำเสนอในวันประชุม
ระเบียบวาระที่ 2 พิจารณาอนุมัติงบการเงินประจำปีสิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2561
ข้อมูลประกอบ :
งบการเงินของ ปตท.สผ. ประจำปีสิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2561 ได้ผ่านการตรวจสอบจากผู้สอบบัญชีรวมทั้งผ่านการสอบทานจากคณะกรรมการตรวจสอบและผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการบริษัทแล้ว ดังปรากฏรายละเอียดในสิ่งที่ส่งมาด้วย 1 สรุปสาระสำคัญเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมาได้ดังนี้
รายการ | ล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกา | ล้านบาท | ||
---|---|---|---|---|
2561 | 2560 | 2561 | 2560 | |
สินทรัพย์รวม |
19,571 |
19,220 |
635,087 |
628,121 |
หนี้สินรวม |
7,551 |
7,703 |
245,024 |
251,746 |
ส่วนของผู้ถือหุ้นรวม |
12,020 |
11,517 |
390,063 |
376,375 |
รายได้รวม |
5,459 |
4,523 |
176,687 |
153,198 |
กำไรสำหรับปี |
1,120 |
594 |
36,206 |
20,579 |
กำไรต่อหุ้นขั้นพื้นฐาน |
0.27 (ดอลลาร์ สรอ./ หุ้น) |
0.13 (ดอลลาร์ สรอ./ หุ้น) |
8.69 (บาท/หุ้น) |
4.54 (บาท/หุ้น) |
ความเห็นของคณะกรรมการ :
ที่ประชุมผู้ถือหุ้นสมควรอนุมัติงบการเงินประจำปีสิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2561 ของ ปตท.สผ. ซึ่งผ่านการตรวจสอบจากผู้สอบบัญชีและผ่านการสอบทานจากคณะกรรมการตรวจสอบ รวมทั้งคณะกรรมการ ปตท.สผ. ได้เห็นชอบแล้ว
ระเบียบวาระที่ 3 พิจารณาการจ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานประจำปี 2561
ข้อมูลประกอบ :
นโยบายการจ่ายเงินปันผลของ ปตท.สผ. กำหนดไว้ว่าหากไม่มีความจำเป็นอันใด ปตท.สผ. จะจ่ายเงินปันผลแก่ผู้ถือหุ้นเป็นจำนวนไม่น้อยกว่าร้อยละ 30 ของกำไรสุทธิหลังจากหักภาษีเงินได้แล้วในแต่ละปี และตามพระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด พ.ศ. 2535 มาตรา 115 และข้อบังคับบริษัท ข้อ 32 กำหนดว่าคณะกรรมการ ปตท.สผ. อาจพิจารณาจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลให้แก่ผู้ถือหุ้นได้เป็นครั้งคราว หาก ปตท.สผ. มีผลกำไร และรายงานให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นทราบในการประชุมคราวต่อไป
ในปี 2561 ปตท.สผ. และบริษัทย่อย มีรายได้รวม 5,459 ล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกา มีกำไรสุทธิ 1,120 ล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกา มีสินทรัพย์รวม 19,571 ล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกา หนี้สินรวม 7,551 ล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกา ส่วนของผู้ถือหุ้น 12,020 ล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกา กำไรสะสมที่ยังไม่ได้จัดสรร 6,863 ล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกา และเงินสดคงเหลือซึ่งรวมเงินลงทุนระยะสั้นจำนวน 4,001 ล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกา คณะกรรมการ ปตท.สผ. พิจารณาแล้วเห็นว่า บริษัทสมควรจ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานรวมของกลุ่ม ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2561 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2561 ในอัตราหุ้นละ 5.00 บาท คิดเป็นอัตราการจ่ายเงินปันผลประมาณร้อยละ 55 เมื่อเทียบกับกำไรสุทธิตามงบการเงินรวม เนื่องจากผลประกอบการในปี 2561 ปรับตัวสูงขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าและคาดว่าเป็นผลตอบแทนที่ยอมรับได้ของนักลงทุนในสภาวะตลาดปัจจุบัน ประกอบกับการจ่ายเงินปันผลดังกล่าวสอดคล้องกับนโยบายการจ่ายเงินปันผลของบริษัท และไม่กระทบต่อสภาพคล่องและโครงสร้างเงินทุนของบริษัท โดยได้คำนึงถึงความต้องการใช้เงินตามแผนการลงทุนต่าง ๆ แล้ว
ปตท.สผ. ได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลสำหรับงวด 6 เดือนแรกของปี 2561 ในอัตราหุ้นละ 1.75 บาท จากกำไรสะสมที่ยังไม่ได้จัดสรรที่เสียภาษีเงินได้ตามประมวลรัษฎากร โดยจะจ่ายเงินปันผลส่วนที่เหลือของปี 2561 ในอัตราหุ้นละ 3.25 บาท ซึ่งเป็นการจ่ายจากกำไรสะสมที่ยังไม่ได้จัดสรรที่เสียภาษีเงินได้ปิโตรเลียมทั้งจำนวน ให้แก่ผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับเงินปันผลตามที่ปรากฏรายชื่อ ณ วันกำหนดสิทธิผู้ถือหุ้น (Record Date) ในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2562 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 11 เมษายน 2562 โดยจะจ่ายเมื่อได้รับการอนุมัติจากที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2562
การจ่ายเงินปันผลเป็นสกุลบาทนั้น อ้างอิงจากผลการดำเนินงานสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอเมริกา และอัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคาร (Weighted-average Interbank Exchange Rate) ที่ประกาศโดยธนาคารแห่งประเทศไทยเฉลี่ย 1 วันทำการ ก่อนวันประชุมคณะกรรมการบริษัท
ข้อมูลเปรียบเทียบเงินปันผลจ่ายในปีที่ผ่านมาเป็นดังนี้
รายละเอียดการจ่ายเงินปันผล | ปี 2561 | ปี 2560 | ||
---|---|---|---|---|
ดอลลาร์ สรอ. | บาท | ดอลลาร์ สรอ. | บาท | |
1. กำไรสุทธิ (ล้าน) |
1,120 |
|
594 |
|
1.1 กำไรสุทธิ หากไม่รวมรายการขาดทุนจากการด้อยค่าของสินทรัพย์ (ล้าน) |
1,215 |
|
836 |
|
2. กำไรต่อหุ้นขั้นพื้นฐาน |
0.27 |
|
0.13 |
|
3. กำไรสุทธิหลังหักทุนสำรองตามกฎหมาย (ล้าน) |
1,120 |
|
594 |
|
4. สัดส่วนการจ่ายเงินปันผล (ร้อยละ)* |
55 |
|
90 |
|
4.1 สัดส่วนการจ่ายเงินปันผล หากไม่รวมรายการขาดทุนจากการด้อยค่าของสินทรัพย์ (ร้อยละ) |
51 |
|
64 |
|
5. รวมเงินปันผลจ่ายประจำปีต่อหุ้น |
|
5.00 |
|
4.25 |
5.1 เงินปันผลระหว่างกาลงวด 6 เดือนแรก |
|
1.75 |
|
1.50 |
5.2 เงินปันผลงวด 6 เดือนหลัง |
|
3.25 |
|
2.75 |
6. รวมเป็นเงินปันผลจ่ายทั้งสิ้น (ล้าน) |
|
19,850 |
|
16,872 |
7. จำนวนหุ้น (ล้านหุ้น) |
|
|
||
7.1 จำนวนหุ้นที่จ่ายเงินปันผลระหว่างกาล |
3,970 |
3,970 |
||
7.2 จำนวนหุ้นที่จ่ายเงินปันผลงวด 6 เดือนหลัง |
3,970 |
3,970 |
*หมายเหตุ: อัตราการจ่ายเงินปันผลคำนวณจากอัตราแลกเปลี่ยน ณ สิ้นปี
ความเห็นของคณะกรรมการ :
ที่ประชุมผู้ถือหุ้นสมควรรับทราบการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล และอนุมัติการจ่ายเงินปันผลประจำปี 2561 ในอัตราหุ้นละ 5.00 บาท ทั้งนี้บริษัทได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลสำหรับงวด 6 เดือนแรกของปี 2561 ไปแล้วเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2561 ในอัตราหุ้นละ 1.75 บาท (จากกำไรสะสมที่ยังไม่ได้จัดสรรที่เสียภาษีเงินได้ตามประมวลรัษฎากร) โดยจะจ่ายเงินปันผลส่วนที่เหลือของปี 2561 ในอัตราหุ้นละ 3.25 บาท ซึ่งเป็นการจ่ายจากกำไรสะสมที่ยังไม่ได้จัดสรรที่เสียภาษีเงินได้ปิโตรเลียมทั้งจำนวน ให้แก่ผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับเงินปันผลตามที่ปรากฏรายชื่อ ณ วันกำหนดสิทธิผู้ถือหุ้น (Record Date) ในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2562 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 11 เมษายน 2562 โดยจะจ่ายเมื่อได้รับอนุมัติจากที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2562
ระเบียบวาระที่ 4 พิจารณาแต่งตั้งผู้สอบบัญชี และกำหนดค่าตอบแทนผู้สอบบัญชีประจำปี 2562
ข้อมูลประกอบ :
ปตท.สผ. มีสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เป็นผู้สอบบัญชีมาตั้งแต่เริ่มจัดตั้งบริษัท ซึ่ง สตง. ไม่มีความสัมพันธ์และไม่มีส่วนได้เสียกับบริษัท / บริษัทย่อย / ผู้บริหาร / ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ หรือผู้ที่เกี่ยวข้องกับบุคคลดังกล่าว ทั้งนี้ บริษัทย่อยบางบริษัทถูกตรวจสอบโดยผู้สอบบัญชีอื่น ซึ่งคณะกรรมการจะดูแลให้สามารถจัดทำงบการเงินให้ทันตามกำหนดระยะเวลา
คณะกรรมการตรวจสอบได้พิจารณาเลือกผู้สอบบัญชีของ ปตท.สผ. รวมถึงค่าธรรมเนียมในการปฏิบัติงานตรวจสอบงบการเงินแล้วเห็นว่า สตง. เป็นหน่วยงานที่มีความน่าเชื่อถือ มีผลงานดี มีบุคลากรที่เพียงพอมีความรู้ความสามารถ จึงให้ความเห็นต่อคณะกรรมการ ปตท.สผ. เพื่อเสนอผู้ถือหุ้นอนุมัติแต่งตั้ง สตง. เป็นผู้สอบบัญชีประจำปี 2562 และกำหนดค่าธรรมเนียมในการปฏิบัติงานตรวจสอบงบการเงินประจำปี 2562 จำนวน 2,800,000 บาท เพิ่มขึ้นจากปี 2561 จำนวน 158,000 บาท (ในปี 2561 ค่าธรรมเนียมการปฏิบัติงานตรวจสอบงบการเงินเป็นจำนวนเงิน 2,642,000 บาท ซึ่งอยู่ในกรอบวงเงิน 2,700,000 บาท ตามที่ได้รับอนุมัติจากที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2561) ซึ่งอัตราการเพิ่มขึ้นนั้นเป็นไปตามปริมาณงานตรวจสอบที่เพิ่มขึ้นจากการที่กลุ่มบริษัทมีการขยายการลงทุนและสามารถเทียบเคียงได้กับบริษัทจดทะเบียนอื่น
สำหรับปี 2561 ปตท.สผ. ไม่มีการจ่ายค่าตอบแทนของงานบริการอื่น (Non – Audit Service Fee) ให้แก่ สตง. สำหรับปี 2560 ปตท.สผ.มีการจ่ายค่าธรรมเนียมในการจัดทำ Comfort Letter เพื่อประกอบการออกและเสนอขายหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนให้แก่ สตง. จำนวน 17,000,000 บาท
ความเห็นของคณะกรรมการ :
ที่ประชุมผู้ถือหุ้นสมควรอนุมัติแต่งตั้งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน เป็นผู้สอบบัญชีของปตท.สผ. ประจำปี 2562 และกำหนดค่าธรรมเนียมในการปฏิบัติงานตรวจสอบงบการเงิน ประจำปี 2562 จำนวน 2,800,000 บาท ตามข้อเสนอของคณะกรรมการตรวจสอบและคณะกรรมการ ปตท.สผ. ที่ได้เห็นชอบด้วยแล้ว
ระเบียบวาระที่ 5 พิจารณาค่าตอบแทนสำหรับคณะกรรมการและคณะกรรมการเฉพาะเรื่อง
ข้อมูลประกอบ :
ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2561 เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2561 ได้มีมติอนุมัติค่าตอบแทนคณะกรรมการและคณะกรรมการเฉพาะเรื่อง สำหรับปี 2561 ทุกรายการในอัตราเท่ากับปี 2560 ไว้แล้ว และมีข้อคิดเห็นว่า โบนัสกรรมการควรเชื่อมโยงกับกำไรสุทธิของบริษัทและควรปรับเพิ่มอัตราให้สูงกว่าร้อยละ 0.1 ของกำไรสุทธิโดยไม่จำกัดวงเงิน (Cap) หากมีการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นเพื่อเพิ่มความสามารถในการจูงใจกรรมการที่มีความรู้ ความสามารถ ประสบการณ์ในการปฏิบัติหน้าที่กรรมการ คณะกรรมการกำหนดค่าตอบแทนได้นำข้อคิดเห็นของผู้ถือหุ้นข้างต้นมาพิจารณาประกอบกับ บทบาทภาระหน้าที่และความรับผิดชอบของกรรมการที่เพิ่มขึ้นนอกเหนือจากธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียมโดยครอบคลุมถึงธุรกิจต่อเนื่องและธุรกิจใหม่ๆ ให้สอดคล้องกับแผนกลยุทธ์ของบริษัทในการปรับโครงสร้างเพื่อต่อยอดธุรกิจที่ปรับตัวตามภาพธุรกิจพลังงานที่เปลี่ยนแปลงไป นอกจากนี้ยังต้องผลักดันการเตรียมการเพื่อรองรับการเป็นผู้ดำเนินการในแหล่งบงกชและเอราวัณในอนาคตซึ่งมีความท้าทายยิ่งขึ้น รวมถึงได้พิจารณาเทียบเคียงค่าตอบแทนสำหรับคณะกรรมการและคณะกรรมการเฉพาะเรื่องกับกลุ่มบริษัทชั้นนำในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET 50) และกลุ่มบริษัทในธุรกิจปิโตรเลียม รวมทั้งทิศทางการปรับเพิ่มขึ้นของกลุ่มบริษัท S&P 500 และบริษัทในกลุ่ม ปตท. แล้วมีความเห็นดังนี้
- ในปี 2562 ควรคงค่าตอบแทนรายเดือนไว้ในอัตราเท่ากับปี 2561 ที่ 40,000 บาทต่อคนต่อเดือน และเพิ่มเบี้ยประชุมกรรมการและคณะกรรมการเฉพาะเรื่องในอัตราครั้งละ 50,000 บาท และ 45,000 บาทต่อคน (กรณีที่มาประชุม) ตามลำดับ
- สำหรับการจ่ายโบนัสกรรมการควรปรับเพิ่มจากร้อยละ 0.1 ของกำไรสุทธิ เป็นร้อยละ 0.2 ของกำไรสุทธิ และคงวงเงินสูงสุด (cap) ไว้ที่ 60 ล้านบาทตามที่ผู้ถือหุ้นอนุมัติไว้เดิม โดยใช้อัตราร้อยละ 0.2 ของกำไรสุทธิจากงบการเงินรวมประจำปีของบริษัทที่ได้รับอนุมัติจากผู้ถือหุ้นในแต่ละปี ถ้ามีการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้น โดยจ่ายตามระยะเวลาในการดำรงตำแหน่งกรรมการ ทั้งนี้ ให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่งบการเงินประจำปี 2561 เป็นต้นไป จนกว่าผู้ถือหุ้นจะมีมติเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น รายละเอียดดังนี้
รายการ |
หลักเกณฑ์การจ่ายค่าตอบแทน |
---|---|
ค่าตอบแทนที่เป็นตัวเงิน |
|
คณะกรรมการ ปตท.สผ. |
|
(1) ค่าตอบแทนรายเดือน |
เดือนละ 40,000 บาทต่อคน โดยจ่ายเต็มเดือน |
(2) ค่าเบี้ยประชุม |
ครั้งละ 50,000 บาทต่อคน กรณีที่มาประชุม |
(3) โบนัสกรรมการ |
ร้อยละ 0.2 ของกำไรสุทธิ และคงวงเงินสูงสุด (cap) ไว้ที่ 60 ล้านบาทตามที่ผู้ถือหุ้นได้อนุมัติไว้เดิม โดยใช้อัตราร้อยละ 0.2 ของกำไรสุทธิจากงบการเงินรวมประจำปีของบริษัทที่ได้รับอนุมัติจากผู้ถือหุ้นในแต่ละปี ถ้ามีการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้น โดยจ่ายตามระยะเวลาในการดำรงตำแหน่งกรรมการ ทั้งนี้ ให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่งบการเงินประจำปี 2561 เป็นต้นไป จนกว่าผู้ถือหุ้นจะมีมติเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น |
หมายเหตุ: ประธานกรรมการได้รับค่าตอบแทนทุกรายการสูงขึ้นร้อยละ 25 |
|
คณะกรรมการเฉพาะเรื่องจำนวน 5 คณะตามข้อบังคับบริษัท (Standing Sub-Committee) |
|
(4) ค่าเบี้ยประชุม |
ครั้งละ 45,000 บาทต่อคน กรณีที่มาประชุม |
หมายเหตุ : ประธานกรรมการเฉพาะเรื่องได้รับสูงขึ้นร้อยละ 25 |
|
ผลประโยชน์อื่นใด |
ไม่มี |
ทั้งนี้ ในปี 2561 ค่าตอบแทนคณะกรรมการ ปตท.สผ. ตามที่ผู้ถือหุ้นได้มีมติเห็นชอบไว้แล้ว ในทุกรายการเป็นจำนวนเงินรวมทั้งสิ้น 59,194,974.20 บาท (เป็นส่วนโบนัสกรรมการในอัตราร้อยละ 0.1 ของกำไรสุทธิ 35,054,974.20 บาท และเป็นค่าตอบแทนคณะกรรมการเฉพาะเรื่องจำนวนเงินรวม 7,120,000 บาท) ดังมีรายละเอียดค่าตอบแทนเป็นรายบุคคลปรากฏในรายงานประจำปี 2561 ตามสิ่งที่ส่งมาด้วย 1 และในกรณีที่ผู้ถือหุ้นอนุมัติอัตราการจ่ายโบนัสกรรมการในอัตราร้อยละ 0.2 ของกำไรสุทธิแต่ยังคงจำกัดวงเงินที่ 60 ล้านบาทตามที่อนุมัติไว้เดิม ค่าตอบแทนกรรมการปตท.สผ.ทุกรายการจะเป็นจำนวนเงินรวมทั้งสิ้น 82,232,072.76 บาท (เป็นส่วนโบนัสกรรมการในอัตราร้อยละ 0.2 ของกำไรสุทธิ 58,092,072.76 บาท) ทั้งนี้เพื่อหลีกเลี่ยงการมีส่วนได้เสีย กรรมการที่เป็นผู้ถือหุ้นและกรรมการอิสระที่ได้รับมอบฉันทะจะไม่ออกเสียงลงคะแนนในระเบียบวาระนี้ (เว้นแต่กรณีผู้ถือหุ้นระบุให้กรรมการอิสระออกเสียงลงคะแนนแทนอย่างชัดเจนโดยใช้หนังสือมอบฉันทะแบบ ข. หรือ ค.)
ความเห็นของคณะกรรมการ :
ที่ประชุมผู้ถือหุ้นสมควรอนุมัติค่าตอบแทนคณะกรรมการและคณะกรรมการเฉพาะเรื่อง ดังนี้
- ค่าตอบแทนรายเดือนของคณะกรรมการในอัตรา 40,000 บาทต่อคน และค่าเบี้ยประชุมของคณะกรรมการและคณะกรรมการเฉพาะเรื่องในอัตราครั้งละ 50,000 บาท และ 45,000 บาทต่อคน (กรณีที่มาประชุม) ตามลำดับ และให้ประธานกรรมการได้รับค่าตอบแทนทุกรายการสูงขึ้นร้อยละ 25 และประธานกรรมการเฉพาะเรื่องได้รับเบี้ยประชุมสูงขึ้นร้อยละ 25 โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ปี 2562 เป็นต้นไปจนกว่าผู้ถือหุ้นจะมีมติเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น
- โบนัสกรรมการในอัตราร้อยละ 0.2 ของกำไรสุทธิ โดยมีวงเงินสูงสุดไม่เกิน 60 ล้านบาท และประธานกรรมการได้รับเพิ่มขึ้นร้อยละ 25 โดยให้ใช้อัตราร้อยละ 0.2% ของกำไรสุทธิจากงบการเงินรวมประจำปีของบริษัทที่ได้รับอนุมัติจากผู้ถือหุ้นในแต่ละปีถ้ามีการจ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้น โดยให้มีผลบังคับตั้งแต่งบการเงินปี 2561 เป็นต้นไป จนกว่าผู้ถือหุ้นจะมีมติเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น
ระเบียบวาระที่ 6 พิจารณาเลือกตั้งกรรมการแทนกรรมการที่ออกตามวาระ
ข้อมูลประกอบ :
ตามพระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด พ.ศ. 2535 และข้อบังคับบริษัท ข้อ 11 กำหนดให้กรรมการ ปตท.สผ. ซึ่งอยู่ในตำแหน่งนานที่สุดจำนวน 1 ใน 3 หรือ 5 คน ต้องออกจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระในการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นของทุกปี ในปี 2562 กรรมการ ปตท.สผ. ที่จะครบวาระมีจำนวน 5 คน เป็นผู้ที่มีคุณสมบัติเป็นกรรมการอิสระตามนิยามกรรมการอิสระของ ปตท.สผ. จำนวน 3 คน โดยนิยามกรรมการอิสระของ ปตท.สผ. กำหนดไว้เข้มงวดกว่าข้อกำหนดขั้นต่ำที่คณะกรรมการกำกับตลาดทุนกำหนดในเรื่องการถือหุ้น มีรายละเอียดในข้อ 1 ของนิยามกรรมการอิสระของ ปตท.สผ. ตามสิ่งที่ส่งมาด้วย 3 โดยกรรมการที่ครบวาระ 5 คน มีรายชื่อดังต่อไปนี้
(1) นายอัชพร จารุจินดา - กรรมการอิสระ ประธานกรรมการตรวจสอบ และ ประธานกรรมการกำหนดค่าตอบแทน
(2) นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ - กรรมการอิสระ ประธานกรรมการบริหารความเสี่ยง กรรมการสรรหา และ กรรมการตรวจสอบ
(3) พลตรี นิมิตต์ สุวรรณรัฐ - กรรมการอิสระ กรรมการบริหารความเสี่ยง และ กรรมการสรรหา
(4) นายวิรัตน์ เอื้อนฤมิต - กรรมการ และกรรมการบริหารความเสี่ยง
(5) นางสาวเพ็ญจันทร์ จริเกษม - กรรมการ และกรรมการบริหารความเสี่ยง
ในการสรรหากรรมการ ปตท.สผ. ได้ประกาศเชิญผู้ถือหุ้นเสนอชื่อบุคคลที่เห็นว่ามีคุณสมบัติเหมาะสมเพื่อรับการคัดเลือกเป็นกรรมการ ปตท.สผ. ในช่วงระหว่างวันที่ 14 กันยายน – 17 ธันวาคม 2561 ผ่านระบบข่าวของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หนังสือพิมพ์ และเผยแพร่บนเว็บไซต์ของ ปตท.สผ. แต่ไม่มีผู้ถือหุ้นรายใดเสนอชื่อบุคคลที่เห็นว่ามีคุณสมบัติเหมาะสมในการเป็นกรรมการมายัง ปตท.สผ. แต่อย่างใด
คณะกรรมการสรรหาได้ดำเนินการสรรหากรรมการโดยพิจารณาถึง Skill Mix ตามองค์ประกอบของคณะกรรมการ ปตท.สผ. คุณสมบัติ ทักษะ ประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญ วาระการดำรงตำแหน่ง รวมถึงรายชื่อบุคคลตามบัญชีรายชื่อคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจของสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ และข้อเสนอของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ผู้ถือหุ้นใหญ่ และได้ผ่านกระบวนการกลั่นกรองของคณะกรรมการ ปตท.สผ. แล้วว่าเป็นผู้มีคุณสมบัติเหมาะสมกับการประกอบธุรกิจของ ปตท.สผ. จึงเห็นสมควรเสนอชื่อบุคคลทั้ง 5 ท่าน เข้าเป็นกรรมการ ปตท.สผ. และเสนอที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2562 พิจารณาเลือกตั้งแทนกรรมการที่ครบวาระในปี 2562 ต่อไป ดังนี้
(1) นายอัชพร จารุจินดา - ดำรงตำแหน่งต่ออีกวาระหนึ่ง
(2) นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ - ดำรงตำแหน่งต่ออีกวาระหนึ่ง
(3) พลตรี นิมิตต์ สุวรรณรัฐ - ดำรงตำแหน่งต่ออีกวาระหนึ่ง
(4) นายวิรัตน์ เอื้อนฤมิต - ดำรงตำแหน่งต่ออีกวาระหนึ่ง
(5) นางสาวเพ็ญจันทร์ จริเกษม - ดำรงตำแหน่งต่ออีกวาระหนึ่ง
โดยเห็นว่าบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อทั้ง 5 คน เหมาะสมที่จะได้รับการพิจารณาเลือกตั้งให้เป็นกรรมการ ปตท.สผ. อีกวาระหนึ่ง เนื่องจากเป็นผู้ที่มีความรู้ความเข้าใจในธุรกิจปิโตรเลียมที่มีลักษณะเป็นธุรกิจเฉพาะ มีความเข้าใจยุทธศาสตร์พลังงานและเข้าใจการดำเนินธุรกิจของ ปตท.สผ. มีส่วนร่วมที่สำคัญในการกำหนดแผนกลยุทธ์รองรับสภาวการณ์ราคาน้ำมันที่ตกต่ำและมีความผันผวนอย่างต่อเนื่อง ทำให้ ปตท.สผ. สามารถบริหารจัดการผ่านพ้นสภาวะวิกฤติราคาน้ำมันในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา มีบทบาทที่โดดเด่นในการกำหนดกลยุทธ์การเข้าซื้อสัดส่วนการลงทุนเพิ่มเติมโครงการบงกชจากบริษัทเชลล์ (Shell) และการยื่นข้อเสนอเพื่อเข้าประมูลสัมปทานปิโตรเลียมแหล่งบงกชและเอราวัณ ซึ่ง ปตท.สผ. ประสบความสำเร็จในการประมูลทั้ง 2 แหล่ง ทำให้สามารถเพิ่มปริมาณการผลิตและปริมาณสำรองให้กับ ปตท.สผ. ในระยะยาว และรักษาระดับปริมาณการผลิตได้อย่างต่อเนื่อง เสริมสร้างความมั่นคงทางด้านพลังงานให้กับประเทศอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ ได้พิจารณาปรับโครงสร้างองค์กรให้พร้อมรองรับโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ ทั้งที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียมและธุรกิจใหม่ รวมถึงพัฒนาองค์กรให้พร้อมต่อการเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยี โครงสร้าง รูปแบบ และวิธีการทำงานที่เหมาะสม แข่งขันได้ การพิจารณาให้บุคคลทั้ง 5 ดำรงตำแหน่งกรรมการ ปตท.สผ. อีกวาระหนึ่ง จึงเป็นประโยชน์ในการสานต่อให้การดำเนินงาน เป็นไปตามแผนกลยุทธ์และการปรับเปลี่ยนทางธุรกิจที่ได้กำหนดไว้ในปี 2561
(1) นายอัชพร จารุจินดา เป็นกรรมการ ปตท.สผ. ต่ออีกหนึ่งวาระ เนื่องจากเป็นผู้ที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ด้านกฎหมาย รวมถึงมีความเข้าใจในด้านการกำกับดูแลกิจการที่ดีและกฎระเบียบของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยนำความรู้ ประสบการณ์ด้านกฎหมายและกฎเกณฑ์ที่ใช้บังคับกับบริษัทจดทะเบียน ตลอดจนพัฒนาการของกฎหมายใหม่มากำกับดูแลให้การดำเนินงานของ ปตท.สผ. อยู่ในกรอบของกฎหมาย สะท้อนผ่านรางวัลต่าง ๆ ด้านการกำกับดูแลกิจการที่ดีเพื่อให้ ปตท.สผ. เติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว
(2) นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ เป็นกรรมการ ปตท.สผ. ต่ออีกหนึ่งวาระ เนื่องจากเป็นผู้ที่มีความรู้ ความสามารถ และความเชี่ยวชาญด้านเศรษฐศาสตร์ รวมถึงมีประสบการณ์การทำงานหลากหลายธุรกิจทั้งธนาคาร หน่วยงานภาครัฐ และบริษัทเอกชนชั้นนำทั้งในและต่างประเทศ สามารถนำมาปรับใช้กับการดำเนินธุรกิจโดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบตกต่ำต่อเนื่อง และกำหนดแผนกลยุทธ์การลงทุนที่เหมาะสมกับสภาวการณ์ เป็นประโยชน์ในการบริหารงานและจัดการกับความเสี่ยงได้อย่างเหมาะสม รวมถึงโอกาสในการลงทุนธุรกิจใหม่ ๆ ที่สอดคล้องกับแผนกลยุทธ์ที่กำหนด
(3) พลตรี นิมิตต์ สุวรรณรัฐ เป็นกรรมการ ปตท.สผ. ต่ออีกหนึ่งวาระ เนื่องจากเป็นผู้ที่มีความรู้ ความสามารถ มีความเข้าใจนโยบายของรัฐ และแผนยุทธศาสตร์ด้านความมั่นคงและความปลอดภัย มีทักษะและความรู้ด้าน Information Technology และ Information Management เป็นประโยชน์ต่อการบริหารจัดการภายใต้สถานการณ์ทางเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เพื่อให้ ปตท.สผ. เตรียมความพร้อมทั้งด้านรูปแบบ โครงสร้างการทำงานให้ทันสมัย ส่งเสริมการพัฒนาบุคลากร และการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่ รวมถึงระบบการจัดเก็บและการบริหารข้อมูลให้สอดคล้องกับทิศทางธุรกิจที่ปรับเปลี่ยนไป
(4) นายวิรัตน์ เอื้อนฤมิต เป็นกรรมการ ปตท.สผ. ต่ออีกหนึ่งวาระ เนื่องจากเป็นผู้ที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ มีประสบการณ์ด้านการเงิน ตลอดจนเข้าใจธุรกิจด้านพลังงานอย่างครบวงจร และเป็นผู้บริหารระดับสูงของ ปตท. เป็นผู้มีวิสัยทัศน์ในการวางแผนกลยุทธ์ด้านพลังงานและสานประโยชน์ (Synergy) ธุรกิจตั้งแต่ Upstream – Midstream – Downstream ของกลุ่ม ปตท. เพื่อต่อยอดธุรกิจของ ปตท.สผ. ไปสู่การลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง เช่น ธุรกิจ LNG และ Gas to Power
(5) นางสาวเพ็ญจันทร์ จริเกษม เป็นกรรมการ ปตท.สผ. ต่ออีกหนึ่งวาระ เนื่องจากเป็นผู้ที่มีความรู้ ความสามารถ และความเชี่ยวชาญในด้านบัญชี การเงิน อย่างดียิ่ง มีประสบการณ์ทำงานด้านการเงินมาอย่างต่อเนื่อง ดำรงตำแหน่งกรรมการของหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ และดำรงตำแหน่งกรรมการและประธานกรรมการตรวจสอบของบริษัทชั้นนำ เคยดำรงตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงด้านการเงินของ ปตท. และ ปตท.สผ. จึงมีความรู้ความเข้าใจในด้านบัญชี การเงิน และภาพรวมของการดำเนินธุรกิจและการลงทุนในธุรกิจเป็นอย่างดี
ทั้งนี้ มีรายละเอียดและวิสัยทัศน์ของผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อเป็นกรรมการทั้ง 5 คน ดังสิ่งที่ส่งมาด้วย 4
ความเห็นของคณะกรรมการ :
ที่ประชุมผู้ถือหุ้นสมควรอนุมัติเลือกตั้งกรรมการ 5 คน ได้แก่ (1) นายอัชพร จารุจินดา (2) นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ (3) พลตรี นิมิตต์ สุวรรณรัฐ (4) นายวิรัตน์ เอื้อนฤมิต (5) นางสาวเพ็ญจันทร์ จริเกษม ตามข้อเสนอของคณะกรรมการสรรหาที่ได้พิจารณากลั่นกรองอย่างเหมาะสมแล้ว โดยจะเป็นกรรมการอิสระ 3 คน (หมายเลข 1, 2 และ 3) ตามคุณสมบัติที่สอดคล้องกับคำนิยามกรรมการอิสระของ ปตท.สผ. และคณะกรรมการ ปตท.สผ. ได้เห็นชอบให้นำเสนอต่อคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) เพื่อให้ความเห็นชอบตามที่กำหนดในระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการกำหนดนโยบายและกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจ โดย คนร. ได้ให้ความเห็นชอบเรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2562 ทั้งนี้ กรรมการที่มีส่วนได้เสียไม่ได้อยู่ในห้องประชุมและไม่ได้ออกเสียงในที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท
ทั้งนี้ คณะกรรมการได้พิจารณาแล้วว่าบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อให้เป็นกรรมการอิสระทุกท่านสามารถให้ความเห็นได้อย่างเป็นอิสระและเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง
ระเบียบวาระที่ 7 เรื่องอื่น ๆ (ถ้ามี)
ข้อมูลประกอบ :
ตามพระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด พ.ศ. 2535 นอกจากระเบียบวาระต่าง ๆ ข้างต้นแล้ว ผู้ถือหุ้นซึ่งมีหุ้นนับรวมกันได้ไม่น้อยกว่าหนึ่งในสามของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้ทั้งหมด จะขอให้ที่ประชุมพิจารณาเรื่องอื่นนอกจากที่ได้กำหนดไว้ในหนังสือนัดประชุมอีกก็ได้
ความเห็นของคณะกรรมการ :
ที่ประชุมผู้ถือหุ้นไม่สมควรพิจารณาเรื่องอื่น ๆ อีก เนื่องจากตามหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดีสำหรับบริษัทจดทะเบียนปี 2560 และโครงการประเมินคุณภาพการจัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี ที่ประชุมสมควรพิจารณาปรึกษาหารือกันเฉพาะเรื่องที่มีการแจ้งไว้ล่วงหน้าเท่านั้น เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับผู้ถือหุ้นทั้งหมดโดยรวม
จึงขอเรียนเชิญผู้ถือหุ้นเข้าร่วมประชุมตามวัน เวลา และสถานที่ดังกล่าวข้างต้น โดย ปตท.สผ. กำหนดให้วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2562 เป็นวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้น (Record Date) ที่มีสิทธิเข้าร่วมประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2562 และรับเงินปันผล และจะเปิดให้ผู้ถือหุ้นลงทะเบียนเพื่อเข้าร่วมประชุมตั้งแต่เวลา 10.30 น. เป็นต้นไป โดยประธานกรรมการมอบหมายให้เจ้าหน้าที่รับลงทะเบียนเป็นผู้รับหนังสือมอบฉันทะแทนประธานกรรมการ และเพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับผู้ถือหุ้นและผู้รับมอบฉันทะในการลงทะเบียนให้รวดเร็วยิ่งขึ้น จึงใคร่ขอให้ท่านโปรดนำเอกสารและหลักฐานตามรายการในสิ่งที่ส่งมาด้วย 5, 6 และ 7 (ถ้ามี) มาแสดงเพื่อลงทะเบียนในวันประชุมด้วย ในกรณีที่ผู้ถือหุ้นเลือกมอบฉันทะให้แก่กรรมการอิสระของ ปตท.สผ. ดังมีรายชื่อและรายละเอียดในสิ่งที่ส่งมาด้วย 8 โปรดนำส่งเอกสารและหลักฐานตามรายการในสิ่งที่ส่งมาด้วย 5, 6 และ 7 ใส่ซองตอบรับตามสิ่งที่ส่งมาด้วย 9 ส่งกลับมายัง ปตท.สผ. ภายในวันที่ 22 มีนาคม 2562 โดย ปตท.สผ. ขอแนะนำให้ใช้หนังสือมอบฉันทะแบบ ข. ตามสิ่งที่ส่งมาด้วย 7 ซึ่งท่านสามารถระบุการออกเสียงลงคะแนนได้อย่างชัดเจน โดยผู้ถือหุ้นสามารถ Download หนังสือมอบฉันทะ แบบ ก. และ แบบ ค. ได้จากเว็บไซต์ของ ปตท.สผ. และ ปตท.สผ. ขอสงวนสิทธิไม่รับลงทะเบียนในกรณีที่เอกสารไม่ครบถ้วน หรือไม่ถูกต้อง หรือไม่เป็นไปตามเงื่อนไข และจะดำเนินการประชุมตามพระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด พ.ศ. 2535 และข้อบังคับบริษัทตามรายละเอียดในสิ่งที่ส่งมาด้วย 10
ทั้งนี้ เพื่อให้ผู้ถือหุ้นได้รับประโยชน์สูงสุดจากการประชุม รวมทั้งเป็นการรักษาสิทธิประโยชน์ของท่านอย่างเต็มที่ หากท่านมีคำถามที่ต้องการให้ ปตท.สผ. ชี้แจงในประเด็นของระเบียบวาระที่นำเสนอครั้งนี้ หรือข้อมูลอื่น ๆ ของ ปตท.สผ. สามารถจัดส่งคำถามไปล่วงหน้าได้ที่ CorporateSecretary@pttep.com หรือโทรสารหมายเลข 0-2537-4500 และในวันประชุมผู้ถือหุ้น ปตท.สผ. ได้จัดของว่างและเครื่องดื่มไว้รับรองผู้ถือหุ้นและผู้รับมอบฉันทะที่มาร่วมประชุม แต่ไม่ได้มีการแจกของชำร่วย
อนึ่ง หากผู้ถือหุ้นท่านใดต้องการรับหนังสือรายงานประจำปี 2561 และรายงานความยั่งยืนประจำปี 2561 ของ ปตท.สผ. ท่านสามารถติดต่อขอรับได้ที่ สายงานเลขานุการบริษัท ศูนย์เอนเนอร์ยี่ คอมเพล็กซ์ อาคาร เอ เลขที่ 555/1 ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงจตุจักร เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900 หรือกรอกแบบฟอร์มในสิ่งที่ส่งมาด้วย 11 และส่งกลับไปที่ ปตท.สผ. เพื่อ ปตท.สผ. จะได้จัดส่งให้แก่ท่านต่อไป และสำหรับท่านที่ต้องการรับเงินปันผลระบบ E-dividend ซึ่งมีความสะดวกและรวดเร็วในการรับเงิน กรุณาแจ้งความประสงค์ที่ บริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด โดยจะมีผลใช้กับการรับเงินปันผลในคราวถัดไป
ขอแสดงความนับถือ
พงศธร ทวีสิน
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สายงานเลขานุการบริษัท ปตท.สผ. :
- ม.ล. พรรณะเลิศ วาสิกศิริ โทร. 0-2537-4749 หรือ
- นางฉัตราพรรณ ชีวานนท์ โทร. 0-2537-5310 หรือ
- นางสาวนลิณรัช สุขสถาพร 0-2537-4000 ต่อ 2233
เอกสารที่เกี่ยวข้อง
การเสนอระเบียบวาระการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นและชื่อกรรมการล่วงหน้า
“บริษัท” หมายความว่า บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน)
“ระเบียบวาระการประชุม” หมายความว่า ระเบียบวาระการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2562 ของ ปตท.สผ.
“คณะกรรมการ” หมายความว่า คณะกรรมการ ปตท.สผ.
“กรรมการ” หมายความว่า กรรมการ ปตท.สผ.
“บริษัท” หมายความว่า บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน)
“ระเบียบวาระการประชุม” หมายความว่า ระเบียบวาระการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2562 ของ ปตท.สผ.
“คณะกรรมการ” หมายความว่า คณะกรรมการ ปตท.สผ.
“กรรมการ” หมายความว่า กรรมการ ปตท.สผ.
ผู้ถือหุ้นที่จะเสนอระเบียบวาระการประชุมหรือเสนอชื่อกรรมการต้องมีคุณสมบัติ ดังนี้
3.1 เป็นผู้ถือหุ้นของบริษัท ณ วันที่เสนอระเบียบวาระการประชุมหรือเสนอชื่อกรรมการ โดยอาจเป็นผู้ถือหุ้นรายเดียวหรือหลายรายรวมกันก็ได้ และ
3.2 มีสัดส่วนการถือหุ้นขั้นต่ำไม่น้อยกว่า 100,000 หุ้น
(1) ต้องเสนอโดยผู้ถือหุ้นที่มีคุณสมบัติครบถ้วนตามข้อ 3
(2) ต้องกรอก “แบบเสนอระเบียบวาระการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2562 (แบบ ก.)” และส่งต้นฉบับของแบบ ก. พร้อมเอกสารหลักฐานที่บริษัทกำหนดให้ถึงบริษัทภายในวันที่ 17 ธันวาคม 2561 เพื่อให้คณะกรรมการมีเวลาเพียงพอในการพิจารณาระเบียบวาระการประชุม ทั้งนี้ สามารถส่งอย่างไม่เป็นทางการทางโทรสาร หมายเลข 0-2537-4500 หรือทางจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (Email) corporatesecretary@pttep.com ก่อนก็ได้
(3) กรณีผู้ถือหุ้นหลายรายรวมกันเสนอระเบียบวาระการประชุมผู้ถือหุ้น ผู้ถือหุ้นทุกรายต้องกรอก “แบบ ก.” และลงชื่อไว้เป็นหลักฐาน แล้วรวมส่งเป็นชุดเดียวกัน
4.2 วิธีการพิจารณา
(1) คณะกรรมการจะเป็นผู้พิจารณาความเหมาะสมของระเบียบวาระการประชุมที่ผู้ถือหุ้นเสนอ ซึ่งจะต้องไม่มีลักษณะดังนี้
(1.1) เรื่องที่กำหนดในมาตรา 89/28 ของพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ที่แก้ไขเพิ่มเติม[1]
(1.2) เรื่องที่ขัดกับกฎหมาย ประกาศ และระเบียบต่างๆ ของหน่วยงานราชการ หรือหน่วยงานที่กำกับดูแลบริษัท หรือไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ ข้อบังคับ มติที่ประชุมผู้ถือหุ้น และการกำกับดูแลกิจการที่ดีและจริยธรรมธุรกิจของกลุ่ม ปตท.สผ.
(1.3) เรื่องที่บริษัทได้ดำเนินการแล้ว
(1.4) เรื่องที่ผู้ถือหุ้นให้ข้อมูลไม่ครบถ้วน หรือไม่ถูกต้อง หรือไม่สามารถติดต่อได้ หรือไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่บริษัทกำหนด
ทั้งนี้ เว้นแต่คณะกรรมการจะพิจารณาเป็นอย่างอื่น และให้คำวินิจฉัยของคณะกรรมการถือเป็นที่สุด
(2) เรื่องที่ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการจะบรรจุเป็นระเบียบวาระการประชุม พร้อมทั้งความเห็นของคณะกรรมการ
(3) เรื่องที่ไม่ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการ บริษัทจะแจ้งให้ ผู้ถือหุ้นทราบพร้อมชี้แจงเหตุผลผ่านช่องทางของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยหรือช่องทางอื่น ที่เหมาะสม และแจ้งเป็นระเบียบวาระเพื่อทราบในการประชุมผู้ถือหุ้นด้วย
[1](1) เป็นเรื่องที่ไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดในวรรคหนึ่งของมาตรา 89/28
(2) เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจปกติของบริษัท และข้อเท็จจริงที่กล่าวอ้างโดยผู้ถือหุ้นมิได้แสดงถึงเหตุอันควรสงสัยเกี่ยวกับความไม่ปกติของเรื่องดังกล่าว
(3) เป็นเรื่องที่อยู่นอกเหนืออำนาจที่บริษัทจะดำเนินการให้เกิดผลตามที่ประสงค์
(4) เป็นเรื่องที่ผู้ถือหุ้นได้เคยเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาแล้วในรอบสิบสองเดือนที่ผ่านมา และเรื่องดังกล่าวได้รับมติสนับสนุนด้วยคะแนนเสียงน้อยกว่าร้อยละสิบของจำนวนสิทธิออกเสียงทั้งหมดของบริษัท เว้นแต่ข้อเท็จจริงในการนำเสนอครั้งใหม่จะได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างมีนัยสำคัญจากข้อเท็จจริงในขณะที่นำเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นในครั้งก่อน
(5) กรณีอื่นใดตามที่คณะกรรมการกำกับตลาดทุนประกาศกำหนดด
(1) ต้องเสนอโดยผู้ถือหุ้นที่มีคุณสมบัติครบถ้วนตามข้อ 3
(2) ต้องกรอก “แบบเสนอชื่อกรรมการ (แบบ ข.)” และ “แบบข้อมูลของบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อเป็นกรรมการ” และส่งต้นฉบับของแบบ ข. และแบบข้อมูลของบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อเป็นกรรมการพร้อมเอกสารหลักฐานที่บริษัทกำหนดให้ถึงบริษัทภายในวันที่ 17 ธันวาคม 2561 เพื่อให้ ปตท.สผ. มีเวลาในการพิจารณากลั่นกรองและตรวจสอบคุณสมบัติก่อนนำเสนอให้คณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) พิจารณาให้ความเห็นชอบรายชื่อกรรมการ ทั้งนี้ สามารถส่งอย่างไม่เป็นทางการทางโทรสาร หมายเลข 0-2537-4500 หรือทางจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (Email) corporatesecretary@pttep.com ก่อนก็ได้
(3) กรณีผู้ถือหุ้นหลายรายรวมกันเสนอชื่อกรรมการ ผู้ถือหุ้นทุกรายต้องกรอก “แบบ ข.” และลงชื่อไว้เป็นหลักฐาน แล้วรวมส่งเป็นชุดเดียวกัน
5.2 วิธีการพิจารณา
(1) คณะกรรมการจะเป็นผู้พิจารณาบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อเป็นกรรมการ ซึ่งจะต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้าม ดังนี้
(1.1) มีคุณสมบัติถูกต้องและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามกฎหมายบริษัทมหาชนจำกัด กฎหมายหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ การกำกับดูแลกิจการที่ดีและจริยธรรมธุรกิจของกลุ่ม ปตท.สผ. และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง
(1.2) มีอายุไม่เกิน 70 ปีบริบูรณ์ (นับถึงสิ้นปี 2562)
(1.3) มีความรู้ ความสามารถ ที่เป็นประโยชน์อย่างสำคัญต่อธุรกิจของบริษัท โดยจะให้ความสำคัญในด้านการวางแผนกลยุทธ์และโอกาสการลงทุนในธุรกิจใหม่ๆ ปรับเปลี่ยนองค์กร เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงทิศทางองค์กร (Organization Change and Development) ด้านเทคโนโลยี (Technology) และด้านกฎหมาย (Legal) โดยอาจพิจารณาความเหมาะสมใน Skill Mix ด้านอื่นที่ยังมีสัดส่วนกรรมการไม่มากตามความจำเป็นและสมควรด้วยส่วนหนึ่ง
(1.4) ไม่ควรดำรงตำแหน่งกรรมการบริษัทจดทะเบียนเกิน 3 บริษัท
(1.5) ไม่เป็นกรรมการในรัฐวิสาหกิจและหรือนิติบุคคลที่รัฐวิสาหกิจเป็นผู้ถือหุ้นเกินกว่า 3 แห่ง
(2) คณะกรรมการจะเสนอรายชื่อบุคคลที่มีคุณวุฒิ และประสบการณ์ที่เหมาะสม รวมถึงมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตาม (1) ต่อคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบตามที่กำหนดไว้ในระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการกำหนดนโยบายและกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. 2557 ข้อ 12 ต่อไป
(3) บุคคลที่ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการหรือคณะกรรมการ นโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) จะได้รับการบรรจุชื่อในระเบียบวาระการประชุม พร้อมทั้งความเห็นของคณะกรรมการและ คนร. (ถ้ามี)
(4) บุคคลที่ไม่ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการหรือคณะกรรมการ นโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) ปตท.สผ. จะแจ้งให้ผู้ถือหุ้นทราบพร้อมชี้แจงเหตุผลผ่านช่องทางของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยหรือช่องทางอื่นที่เหมาะสม และแจ้งเป็นระเบียบวาระเพื่อทราบในการประชุมผู้ถือหุ้นด้วย