นักลงทุนสัมพันธ์
ข้อมูลประชุมผู้ถือหุ้น
เรื่อง : ขอเชิญประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2561
เรียน : ท่านผู้ถือหุ้น
[วันที่เผยแพร่บนเวปไซต์ : 26 กุมภาพันธ์ 2561]
สิ่งที่ส่งมาด้วย
- รายงานประจำปี 2560 และ รายงานความยั่งยืนประจำปี 2560
- หน้าที่และความรับผิดชอบของคณะกรรมการเฉพาะเรื่องของ ปตท.สผ.
- นิยามกรรมการอิสระของ ปตท.สผ.
- ข้อมูลของผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อเพื่อเลือกตั้งเป็นกรรมการ ปตท.สผ.
- เอกสารและหลักฐานที่ผู้เข้าร่วมประชุมต้องแสดงก่อนเข้าร่วมประชุมและการมอบฉันทะ
- แบบฟอร์มลงทะเบียนที่ต้องนำมาในวันประชุมและขั้นตอนการเข้าร่วมการประชุม
- หนังสือมอบฉันทะ แบบ ก. , แบบ ข. , แบบ ค.
- รายชื่อและรายละเอียดเกี่ยวกับกรรมการอิสระเพื่อประกอบการมอบฉันทะของผู้ถือหุ้น
- ซองตอบรับ (จัดส่งไปกับเล่มหนังสือเชิญประชุม)
- ข้อบังคับบริษัท พระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด พ.ศ. 2535 และพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 เกี่ยวกับการประชุมผู้ถือหุ้นและการออกเสียงลงคะแนน
- แบบฟอร์มขอรับรายงานประจำปี 2560 และ/หรือ รายงานความยั่งยืนประจำปี 2560 ในรูปแบบหนังสือ
- แผนที่แสดงสถานที่ประชุม
บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. ขอเชิญประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2561 ในวันจันทร์ที่ 2 เมษายน 2561 เวลา 09.30 น. ณ ห้องบางกอกคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ ชั้น 5 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลลาดพร้าว (ฝั่งพลาซ่า) เลขที่ 1695 ถนนพหลโยธิน เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900 โดยมีระเบียบวาระการประชุม ดังนี้
ระเบียบวาระที่ 1 รับทราบผลการดำเนินงานประจำปี 2560 และแผนงานประจำปี 2561
ข้อมูลประกอบ :
ผลการดำเนินงานประจำปี 2560 มีรายละเอียดดังปรากฏในสิ่งที่ส่งมาด้วย 1 โดยแผนงานประจำปี 2561 จะนำเสนอในวันประชุม
ความเห็นของคณะกรรมการ :
ที่ประชุมผู้ถือหุ้นสมควรรับทราบผลการดำเนินงานประจำปี 2560 โดยมีตัวเลขทางการเงินและรายละเอียดต่าง ๆ ในรายงานประจำปี 2560 และรายงานความยั่งยืนประจำปี 2560 ของ ปตท.สผ. รวมถึงรับทราบแผนงานประจำปี 2561 ของ ปตท.สผ. ด้วย โดยจะนำเสนอในวันประชุม
ระเบียบวาระที่ 2 พิจารณาอนุมัติงบการเงินประจำปีสิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2560
ข้อมูลประกอบ :
งบการเงินของ ปตท.สผ. ประจำปีสิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2560 ได้ผ่านการตรวจสอบจากผู้สอบบัญชีและผ่านการสอบทานจากคณะกรรมการตรวจสอบแล้ว ดังปรากฏรายละเอียดในสิ่งที่ส่งมาด้วย 1 สรุปสาระสำคัญเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมาได้ดังนี้
รายการ | ล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกา | ล้านบาท | ||
---|---|---|---|---|
2560 | 2559 | 2560 | 2559 | |
สินทรัพย์รวม |
19,220 |
18,891 |
628,121 |
676,890 |
หนี้สินรวม |
7,703 |
7,505 |
251,746 |
268,906 |
ส่วนของผู้ถือหุ้นรวม |
11,517 |
11,386 |
376,375 |
407,984 |
รายได้รวม |
4,523 |
4,339 |
153,198 |
152,745 |
กำไรสำหรับปี |
594 |
372 |
20,579 |
12,860 |
กำไรต่อหุ้นขั้นพื้นฐาน |
0.13 (ดอลลาร์ สรอ./ หุ้น) |
0.08 (ดอลลาร์ สรอ./ หุ้น) |
4.54 (บาท/หุ้น) |
2.76 (บาท/หุ้น) |
ความเห็นของคณะกรรมการ :
ที่ประชุมผู้ถือหุ้นสมควรอนุมัติงบการเงินประจำปีสิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2560 ของ ปตท.สผ. ซึ่งผ่านการตรวจสอบจากผู้สอบบัญชีและผ่านการสอบทานจากคณะกรรมการตรวจสอบ รวมทั้งคณะกรรมการ ปตท.สผ. ได้เห็นชอบแล้ว
ระเบียบวาระที่ 3 พิจารณาการจ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานประจำปี 2560
ข้อมูลประกอบ :
นโยบายการจ่ายเงินปันผลของ ปตท.สผ. กำหนดไว้ว่าหากไม่มีความจำเป็นอันใด ปตท.สผ. จะจ่ายเงินปันผลแก่ผู้ถือหุ้นเป็นจำนวนไม่น้อยกว่าร้อยละ 30 ของกำไรสุทธิหลังจากหักภาษีเงินได้แล้วในแต่ละปี และตามพระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด พ.ศ. 2535 มาตรา 115 และข้อบังคับบริษัท ข้อ 32 กำหนดว่าคณะกรรมการ ปตท.สผ. อาจพิจารณาจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลให้แก่ผู้ถือหุ้นได้เป็นครั้งคราว หาก ปตท.สผ. มีผลกำไร และรายงานให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นทราบในการประชุมคราวต่อไป
ในปี 2560 ปตท.สผ. และบริษัทย่อย มีรายได้รวม 4,523 ล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกา มีกำไรสุทธิ 594 ล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกา มีสินทรัพย์รวม 19,220 ล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกา หนี้สินรวม 7,703 ล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกา ส่วนของผู้ถือหุ้น 11,517 ล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกา กำไรสะสมที่ยังไม่ได้จัดสรร 6,355 ล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกา และเงินสดคงเหลือซึ่งรวมเงินลงทุนระยะสั้นจำนวน 4,468 ล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกา คณะกรรมการ ปตท.สผ. พิจารณาแล้วเห็นว่า ปตท.สผ. สมควรจ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานรวมของกลุ่ม ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2560 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2560 ในอัตราหุ้นละ 4.25 บาท คิดเป็นอัตราการจ่ายเงินปันผลประมาณร้อยละ 90 เมื่อเทียบกับกําไรสุทธิตามงบการเงินรวม เป็นไปตามนโยบายการจ่ายเงินปันผลของ ปตท.สผ. ทั้งนี้ ปตท.สผ. ได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลสำหรับงวด 6 เดือนแรกของปี 2560 ในอัตราหุ้นละ 1.50 บาทจากกำไรสะสมที่ยังไม่ได้จัดสรรที่เสียภาษีเงินได้ปิโตรเลียม โดยจะจ่ายเงินปันผลส่วนที่เหลือของปี 2560 ในอัตราหุ้นละ 2.75 บาท ซึ่งเป็นการจ่ายจากกำไรสะสมที่ยังไม่ได้จัดสรรที่เสียภาษีเงินได้ปิโตรเลียมทั้งจำนวน ให้แก่ผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับเงินปันผลตามที่ปรากฏรายชื่อ ณ วันกำหนดสิทธิผู้ถือหุ้น (Record Date) ในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2561 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 12 เมษายน 2561 โดยจะจ่ายเมื่อได้รับการอนุมัติจากที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2561
อนึ่ง การจ่ายเงินปันผลเป็นสกุลบาทนั้นอ้างอิงจากผลการดำเนินงานสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอเมริกา และอัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารที่ประกาศโดยธนาคารแห่งประเทศไทย (Weighted-average Interbank Exchange Rate) เฉลี่ย 1 วันทำการ ก่อนวันประชุมคณะกรรมการบริษัท
ข้อมูลเปรียบเทียบเงินปันผลจ่ายในปีที่ผ่านมาเป็นดังนี้
รายละเอียดการจ่ายเงินปันผล | ปี 2560 | ปี 2559 | ||
---|---|---|---|---|
ดอลลาร์ สรอ. | บาท | ดอลลาร์ สรอ. | บาท | |
1. กำไรสุทธิ (ล้าน) |
594 |
|
372 |
|
1.1 กำไรสุทธิ หากไม่รวมรายการขาดทุนจากการด้อยค่าของสินทรัพย์ (ล้าน) |
836 |
|
419 |
|
2. กำไรต่อหุ้นขั้นพื้นฐาน |
0.13 |
|
0.08 |
|
3. กำไรสุทธิหลังหักทุนสำรองตามกฎหมาย (ล้าน) |
594 |
|
372 |
|
4. สัดส่วนการจ่ายเงินปันผล (ร้อยละ)* |
90 |
|
98 |
|
4.1 สัดส่วนการจ่ายเงินปันผล หากไม่รวมรายการขาดทุนจากการด้อยค่าของสินทรัพย์ (ร้อยละ) |
64 |
|
87 |
|
5. รวมเงินปันผลจ่ายประจำปีต่อหุ้น |
|
4.25 |
|
3.25 |
5.1 เงินปันผลระหว่างกาลงวด 6 เดือนแรก |
|
1.50 |
|
0.75 |
5.2 เงินปันผลงวด 6 เดือนหลัง |
|
2.75 |
|
2.50 |
6. รวมเป็นเงินปันผลจ่ายทั้งสิ้น (ล้าน) |
|
16,872 |
|
12,902 |
7. จำนวนหุ้น (ล้านหุ้น) |
|
|
||
7.1 จำนวนหุ้นที่จ่ายเงินปันผลระหว่างกาล |
3,970 |
3,970 |
||
7.2 จำนวนหุ้นที่จ่ายเงินปันผลงวด 6 เดือนหลัง |
3,970 |
3,970 |
*หมายเหตุ: อัตราการจ่ายเงินปันผลคำนวณจากอัตราแลกเปลี่ยน ณ สิ้นปี
ความเห็นของคณะกรรมการ :
ที่ประชุมผู้ถือหุ้นสมควรรับทราบการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล และอนุมัติการจ่ายเงินปันผลประจำปี 2560 ในอัตราหุ้นละ 4.25 บาท ทั้งนี้ ปตท.สผ. ได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลสำหรับงวด 6 เดือนแรกของปี 2560 ไปแล้วเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2560 ในอัตราหุ้นละ 1.50 บาท (จากกำไรสะสมที่ยังไม่ได้จัดสรรที่เสียภาษีเงินได้ปิโตรเลียม) โดยจะจ่ายเงินปันผลส่วนที่เหลือของปี 2560 ในอัตราหุ้นละ 2.75 บาท เป็นการจ่ายจากกำไรสะสมที่ยังไม่ได้จัดสรรที่เสียภาษีเงินได้ปิโตรเลียมทั้งจำนวน ให้แก่ผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับเงินปันผลตามที่ปรากฏรายชื่อ ณ วันกำหนดสิทธิผู้ถือหุ้น (Record Date) ในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2561 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 12 เมษายน 2561 โดยจะจ่ายเมื่อได้รับอนุมัติจากที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2561
ระเบียบวาระที่ 4 พิจารณาแต่งตั้งผู้สอบบัญชีและกำหนดค่าตอบแทนผู้สอบบัญชีประจำปี 2561
ข้อมูลประกอบ :
ปตท.สผ. มีสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เป็นผู้สอบบัญชีมาตั้งแต่เริ่มจัดตั้งบริษัท โดย สตง. ไม่มีความสัมพันธ์และไม่มีส่วนได้เสียกับบริษัท, บริษัทย่อย, ผู้บริหาร, ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ หรือผู้ที่เกี่ยวข้องกับบุคคลดังกล่าว ทั้งนี้ บริษัทย่อยบางบริษัทถูกตรวจสอบโดยผู้สอบบัญชีอื่น คณะกรรมการ ปตท.สผ. จะดูแลให้สามารถจัดทำงบการเงินให้ทันตามกำหนดระยะเวลา
คณะกรรมการตรวจสอบได้พิจารณาเลือกผู้สอบบัญชีของ ปตท.สผ. รวมทั้งค่าตอบแทนจากการสอบบัญชี และ/หรือ ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการสอบบัญชีแล้วเห็นว่า สตง. เป็นหน่วยงานที่มีความน่าเชื่อถือ มีผลงานดี มีบุคลากรที่เพียงพอมีความรู้ความสามารถ จึงให้ความเห็นต่อคณะกรรมการ ปตท.สผ. เพื่อเสนอผู้ถือหุ้นอนุมัติแต่งตั้ง สตง. เป็นผู้สอบบัญชีประจำปี 2561 และกำหนดค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการสอบบัญชีประจำปี 2561 ในกรอบวงเงิน 2,700,000 บาท ส่วนในปี 2560 ปตท.สผ. มีค่าตอบแทนจากการสอบบัญชีสำหรับ สตง. จำนวน 2,350,000 บาท
สำหรับค่าบริการอื่น (Non Audit Services Fee) ในปี 2560 ปตท.สผ. มีค่าตอบแทนของงานบริการอื่นให้แก่ สตง. จำนวน 17,000,000 บาท ซึ่งเป็นค่าธรรมเนียมในการจัดทำ Comfort Letter เพื่อประกอบการออกและเสนอขายหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุน เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2559 ปตท.สผ. ไม่ได้มีการจ่ายค่าตอบแทนสำหรับงานบริการอื่นให้แก่ สตง.
ความเห็นของคณะกรรมการ :
ที่ประชุมผู้ถือหุ้นสมควรอนุมัติแต่งตั้งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินเป็นผู้สอบบัญชีของ ปตท.สผ. ประจำปี 2561 และกำหนดค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการสอบบัญชีประจำปี 2561 ในกรอบวงเงิน 2,700,000 บาท ตามข้อเสนอของคณะกรรมการตรวจสอบและคณะกรรมการ ปตท.สผ. ได้เห็นชอบด้วยแล้ว
ระเบียบวาระที่ 5 พิจารณาแก้ไขข้อบังคับบริษัท ข้อ 21 หมวดที่ 4 เรื่องการประชุมผู้ถือหุ้น และข้อ 9 หมวดที่ 3 คณะกรรมการ
ข้อมูลประกอบ :
1. คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ออกคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 21/ 2560 เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2560 เรื่องการแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายเพื่ออำนวยความสะดวกให้การประกอบธุรกิจ โดยแก้ไขมาตรา 100 แห่งพระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด พ.ศ. 2535 ซึ่งให้ประโยชน์ต่อผู้ถือหุ้นมากขึ้นเนื่องจากจำนวนหุ้นขั้นต่ำสำหรับการเรียกประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นจะลดลงจากร้อยละ 20 เป็นร้อยละ 10 คณะกรรมการ ปตท.สผ. ได้พิจารณาและเห็นชอบให้แก้ไขข้อบังคับบริษัทให้สอดคล้องกับกฎหมายโดยข้อบังคับข้อ 21 หมวด 4 ที่ได้แก้ไขจะมีข้อความดังนี้
“คณะกรรมการต้องจัดให้มีการประชุมผู้ถือหุ้นเป็นการประชุมสามัญประจำปีภายในสี่เดือนนับแต่วันสิ้นสุดของรอบปีบัญชีของบริษัท
การประชุมผู้ถือหุ้นคราวอื่นนอกจากที่กล่าวแล้วให้เรียกว่าการประชุมวิสามัญ โดยคณะกรรมการของบริษัทจะเรียกประชุมผู้ถือหุ้นเป็นการประชุมวิสามัญเมื่อใดก็ได้สุดแต่จะเห็นสมควร หรือผู้ถือหุ้นคนหนึ่งหรือหลายคนซึ่งมีหุ้นนับรวมกันได้ไม่น้อยกว่าร้อยละสิบของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้ทั้งหมด จะเข้าชื่อกันทำหนังสือขอให้คณะกรรมการเรียกประชุมผู้ถือหุ้นเป็นการประชุมวิสามัญเมื่อใดก็ได้ แต่ต้องระบุเรื่องและเหตุผลในการที่ขอให้เรียกประชุมไว้ให้ชัดเจนในหนังสือดังกล่าวด้วย ในกรณีเช่นนี้คณะกรรมการต้องจัดให้มีการประชุมผู้ถือหุ้นภายในสี่สิบห้าวันนับแต่วันที่ได้รับหนังสือจากผู้ถือหุ้น
ในกรณีที่คณะกรรมการไม่จัดให้มีการประชุมภายในกำหนดระยะเวลาตามวรรคสอง ผู้ถือหุ้นทั้งหลายซึ่งเข้าชื่อกันหรือผู้ถือหุ้นคนอื่น ๆ รวมกันได้จำนวนหุ้นตามที่บังคับไว้นั้นจะเรียกประชุมเองก็ได้ภายในสี่สิบห้าวันนับแต่วันครบกำหนดระยะเวลาตามวรรคสอง ในกรณีเช่นนี้ให้ถือว่าเป็นการประชุมผู้ถือหุ้นที่คณะกรรมการเรียกประชุม โดยบริษัทต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายอันจำเป็นที่เกิดจากการจัดให้มีการประชุมและอำนวยความสะดวกตามสมควร
ในกรณีที่ปรากฏว่าการประชุมผู้ถือหุ้นที่เป็นการเรียกประชุมเพราะผู้ถือหุ้นตามวรรคสามครั้งใด จำนวนผู้ถือหุ้นซึ่งมาร่วมประชุมไม่ครบเป็นองค์ประชุมตามที่กำหนดไว้ในข้อบังคับนี้ ผู้ถือหุ้นตามวรรคสามต้องร่วมกันรับผิดชอบชดใช้ค่าใช้จ่ายที่เกิดจากการจัดให้มีการประชุมในครั้งนั้นให้แก่บริษัท”
2. สำหรับการแก้ไขข้อบังคับข้อ 9 หมวด 3 เนื่องจากตามข้อบังคับได้กำหนดให้คณะกรรมการแต่งตั้งกรรมการ 1 คน เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร แต่ตามแนวทางปฏิบัติ เมื่อตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (Chief Executive Officer : CEO) ว่างลง คณะกรรมการสรรหาจะเป็นผู้พิจารณาสรรหาบุคคลที่มีคุณสมบัติเหมาะสมในตำแหน่ง CEO และเสนอต่อคณะกรรมการ ปตท.สผ. เพื่อพิจารณาแต่งตั้ง และแต่งตั้งให้ CEO เข้าเป็นกรรมการที่มีส่วนร่วมในการบริหารงานในคณะกรรมการบริษัทต่อไป คณะกรรมการ ปตท.สผ. จึงเห็นควรให้ปรับแก้ไขข้อบังคับหมวด 3 ข้อ 9 วรรค 3 ให้สอดคล้องกับแนวปฏิบัติ โดยมีข้อความดังต่อไปนี้
“ให้คณะกรรมการมีอำนาจเลือกตั้งกรรมการคนหนึ่งเป็นประธานกรรมการ และถ้าเห็นสมควรจะเลือกตั้งกรรมการอีกคนหนึ่งเป็นรองประธานกรรมการก็ได้ กับให้มีอำนาจแต่งตั้งบุคคลเข้าดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารโดยให้ดำรงตำแหน่งกรรมการอีกตำแหน่งหนึ่งด้วย และแต่งตั้งผู้บริหารคนหนึ่งเป็นเลขานุการคณะกรรมการ”
ความเห็นของคณะกรรมการ :
ที่ประชุมผู้ถือหุ้นสมควรอนุมัติแก้ไขข้อบังคับบริษัท ข้อ 21 หมวดที่ 4 เรื่องการประชุมผู้ถือหุ้น และข้อ 9 หมวดที่ 3 คณะกรรมการ ตามที่คณะกรรมการ ปตท.สผ. ได้เห็นชอบด้วยแล้ว
ระเบียบวาระที่ 6 พิจารณาค่าตอบแทนสำหรับคณะกรรมการและคณะกรรมการเฉพาะเรื่อง
ข้อมูลประกอบ :
ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2560 เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2560 ได้มีมติอนุมัติค่าตอบแทนคณะกรรมการและคณะกรรมการเฉพาะเรื่อง ทั้งในส่วนค่าตอบแทนรายเดือน เบี้ยประชุมกรรมการ และโบนัสกรรมการ ตั้งแต่ปี 2560 เป็นต้นไปไว้แล้ว และในปี 2561 นี้ คณะกรรมการกำหนดค่าตอบแทนได้พิจารณาเปรียบเทียบค่าตอบแทนสำหรับคณะกรรมการและคณะกรรมการเฉพาะเรื่องกับบริษัทจดทะเบียนชั้นนำ และบริษัทในกลุ่ม ปตท. แล้วพบว่าค่าตอบแทนในส่วนของค่าตอบแทนรายเดือน
เบี้ยประชุมกรรมการ และโบนัสกรรมการมีความเหมาะสมใกล้เคียงกับบริษัทในกลุ่ม ปตท. จึงเห็นสมควรให้คงค่าตอบแทนทุกรายการในอัตราเท่ากับปี 2560 ตามมติที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นที่ได้อนุมัติไว้ดังนี้
รายการ |
หลักเกณฑ์การจ่ายค่าตอบแทน | |||
---|---|---|---|---|
ค่าตอบแทนที่เป็นตัวเงิน |
||||
(1) ค่าตอบแทนรายเดือน |
เดือนละ 40,000 บาทต่อคน โดยจ่ายเต็มเดือน |
|||
(2) ค่าเบี้ยประชุม |
ครั้งละ 40,000 บาทต่อคน กรณีที่มาประชุม |
|||
(3) โบนัสกรรมการ |
ให้คณะกรรมการทั้งคณะได้รับโบนัส ถ้ามีการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในปี 2561 ในอัตราร้อยละ 0.1 ของกำไรสุทธิจากงบการเงินรวมของบริษัท แต่ไม่เกินวงเงิน 60 ล้านบาทโดยจ่ายตามระยะเวลาการดำรงตำแหน่งกรรมการ |
|||
ผลประโยชน์อื่นใด |
ไม่มี |
|||
หมายเหตุ: ประธานกรรมการได้รับค่าตอบแทนทุกรายการสูงขึ้นร้อยละ 25 |
ค่าตอบแทนกรรมการเฉพาะเรื่อง : จำนวน 5 คณะ เป็นคณะกรรมการเฉพาะเรื่องประจำตามข้อบังคับของบริษัท (Standing Sub-Committee) ได้แก่ (1) คณะกรรมการตรวจสอบ (2) คณะกรรมการกำหนดค่าตอบแทน (3) คณะกรรมการสรรหา (4) คณะกรรมการบรรษัทภิบาล และ (5) คณะกรรมการบริหารความเสี่ยง มีหน้าที่และความรับผิดชอบตามรายละเอียดในสิ่งที่ส่งมาด้วย 2 ในอัตราเท่ากับปี 2560 ดังนี้
รายการ |
หลักเกณฑ์การจ่ายค่าตอบแทน | |||
---|---|---|---|---|
ค่าเบี้ยประชุม |
ครั้งละ 40,000 บาทต่อคน กรณีที่มาประชุม |
|||
หมายเหตุ: ประธานกรรมการเฉพาะเรื่องได้รับสูงขึ้นร้อยละ 25 |
ทั้งนี้ ในปี 2560 ค่าตอบแทนคณะกรรมการ ปตท.สผ. เป็นจำนวนเงินรวมทั้งสิ้น 42,993,020.64 บาท โดยเป็นค่าตอบแทนคณะกรรมการเฉพาะเรื่องจำนวนเงินรวม 6,710,000 บาท ดังมีรายละเอียดค่าตอบแทนเป็นรายบุคคลปรากฏในรายงานประจำปี 2560 ตามสิ่งที่ส่งมาด้วย 1 เพื่อหลีกเลี่ยงการมีส่วนได้เสีย กรรมการที่เป็นผู้ถือหุ้นและกรรมการอิสระที่ได้รับมอบฉันทะจะไม่ออกเสียงลงคะแนนในระเบียบวาระนี้
ความเห็นของคณะกรรมการ :
ที่ประชุมผู้ถือหุ้นสมควรอนุมัติค่าตอบแทนของคณะกรรมการ และคณะกรรมการเฉพาะเรื่อง ปี 2561 ทุกรายการ คือ ค่าตอบแทนรายเดือน เบี้ยประชุม และโบนัสกรรมการ ในอัตราเท่ากับปี 2560 ตามที่คณะกรรมการกำหนดค่าตอบแทนได้พิจารณากลั่นกรองอย่างเหมาะสมแล้ว และคณะกรรมการ ปตท.สผ. ได้เห็นชอบด้วยแล้ว
ระเบียบวาระที่ 7 พิจารณาเลือกตั้งกรรมการแทนกรรมการที่ออกตามวาระ
ข้อมูลประกอบ :
ตามพระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด พ.ศ. 2535 และข้อบังคับบริษัท ข้อ 11 กำหนดให้กรรมการ ปตท.สผ. ซึ่งอยู่ในตำแหน่งนานที่สุดจำนวน 1 ใน 3 หรือ 5 คน ต้องออกจากตำแหน่ง เนื่องจากครบวาระในการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นของทุกปี ในปี 2561 กรรมการ ปตท.สผ. ที่จะครบวาระ มีจำนวน 5 คน เป็นผู้ที่มีคุณสมบัติเป็นกรรมการอิสระตามนิยามกรรมการอิสระของ ปตท.สผ. จำนวน 4 คน โดยนิยามกรรมการอิสระของ ปตท.สผ. กำหนดไว้เข้มงวดกว่าข้อกำหนดขั้นต่ำที่คณะกรรมการกำกับตลาดทุนกำหนดในเรื่องการถือหุ้น มีรายละเอียดในข้อ 1 ของนิยามกรรมการอิสระของ ปตท.สผ. ตามสิ่งที่ส่งมาด้วย 3 โดยกรรมการที่ครบวาระ 5 คน มีรายชื่อดังต่อไปนี้
(1) นายปรัชญา ภิญญาวัธน์ - ประธานกรรมการ และประธานกรรมการอิสระ
(2) นายปิติพันธ์ เทพปฏิมากรณ์ - กรรมการ กรรมการบริหารความเสี่ยง และกรรมการบรรษัทภิบาล
(3) นางสาวปนัดดา กนกวัฒน์ - กรรมการอิสระ กรรมการตรวจสอบ และกรรมการบรรษัทภิบาล
(4) นายบัณฑิต เอื้ออาภรณ์ - กรรมการอิสระ
(5) พลเรือเอกธนะรัตน์ อุบล - รองประธานกรรมการอิสระ ประธานกรรมการบรรษัทภิบาล และกรรมการกำหนดค่าตอบแทน
ในการสรรหากรรมการ ปตท.สผ. ได้ประกาศเชิญผู้ถือหุ้นเสนอชื่อบุคคลที่เห็นว่ามีคุณสมบัติเหมาะสมเพื่อรับการคัดเลือกเป็นกรรมการ ปตท.สผ. ในช่วงระหว่างวันที่ 15 กันยายน – 15 ธันวาคม 2560 ผ่านระบบข่าวของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หนังสือพิมพ์ และเผยแพร่บนเว็บไซต์ของ ปตท.สผ. แต่ไม่มีผู้ถือหุ้นรายใดเสนอชื่อบุคคลที่เห็นว่ามีคุณสมบัติเหมาะสมในการเป็นกรรมการมายัง ปตท.สผ. แต่อย่างใด
คณะกรรมการสรรหาได้ดำเนินการสรรหากรรมการโดยพิจารณาถึง Skill Mix ตามองค์ประกอบของคณะกรรมการ ปตท.สผ. คุณสมบัติ ทักษะ ประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญ วาระการดำรงตำแหน่ง รวมถึงรายชื่อบุคคลตามบัญชีรายชื่อคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจของสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ และข้อเสนอของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ผู้ถือหุ้นใหญ่แล้ว เห็นสมควรเสนอชื่อบุคคลที่มีคุณสมบัติเหมาะสมเป็นกรรมการ ปตท.สผ. จำนวน 5 คน เพื่อเสนอที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2561 เลือกตั้งแทนกรรมการที่ครบวาระในปี 2561 ต่อไป ดังนี้
(1) นายปรัชญา ภิญญาวัธน์ - ดำรงตำแหน่งต่ออีกวาระหนึ่ง
(2) นายปิติพันธ์ เทพปฏิมากรณ์ - ดำรงตำแหน่งต่ออีกวาระหนึ่ง
(3) นางสาวปนัดดา กนกวัฒน์ - ดำรงตำแหน่งต่ออีกวาระหนึ่ง
(4) นายบัณฑิต เอื้ออาภรณ์ - ดำรงตำแหน่งต่ออีกวาระหนึ่ง
(5) พลเรือเอกธนะรัตน์ อุบล - ดำรงตำแหน่งต่ออีกวาระหนึ่ง
โดยเห็นว่าบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อทั้ง 5 คน ควรได้รับการพิจารณาเลือกตั้งในตำแหน่งกรรมการ ปตท.สผ. อีกวาระหนึ่ง เนื่องจากเป็นผู้ที่มีความรู้ความเข้าใจในธุรกิจปิโตรเลียมซึ่งเป็นธุรกิจเฉพาะ มีความเข้าใจการดำเนินธุรกิจของ ปตท.สผ. มีวิสัยทัศน์และมีความเข้าใจยุทธศาสตร์พลังงานเป็นอย่างดี
มีความสำเร็จที่โดดเด่นในการร่วมกำหนดแผนกลยุทธ์เพื่อผลักดันให้ ปตท.สผ. ผ่านพ้นสภาวะวิกฤตในช่วงราคาน้ำมันตกต่ำและมีความผันผวนอย่างต่อเนื่อง มีการพิจารณาปรับโครงสร้างองค์กรให้พร้อมรองรับโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ ทั้งที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียมและธุรกิจใหม่ รวมถึงพัฒนาองค์กรให้พร้อมต่อการเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยีใหม่ ๆ โครงสร้าง รูปแบบ และวิธีการทำงานที่เหมาะสม แข่งขันได้ เพื่อให้องค์กรเติบโตอย่างยั่งยืน ดังนั้น การพิจารณาให้บุคคลทั้ง 5 ดำรงตำแหน่งกรรมการ ปตท.สผ. อีกวาระหนึ่ง จึงเป็นประโยชน์ในการสานต่อให้การดำเนินงาน เป็นไปตามแผนกลยุทธ์และการปรับเปลี่ยนทางธุรกิจที่ได้กำหนดไว้ในปี 2560
(1) นายปรัชญา ภิญญาวัธน์ เป็นกรรมการ ปตท.สผ. ต่ออีกหนึ่งวาระ เนื่องจากเป็นผู้ที่มีความรู้ มีความเข้าใจ และมีประสบการณ์ในธุรกิจด้านพลังงานอย่างครบวงจร ตั้งแต่ธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียม โดยเคยดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ของ ปตท.สผ. เป็นผู้พัฒนาและวางแผนการรับโอนโครงการบงกชและดำเนินการได้ตามแผนงานทุกประการ เป็นผู้บริหารระดับสูงในกลุ่ม ปตท. ทั้งด้านธุรกิจก๊าซธรรมชาติ ธุรกิจปิโตรเคมีและธุรกิจการกลั่น จึงมีวิสัยทัศน์ในด้านยุทธศาสตร์พลังงานและการปรับเปลี่ยนธุรกิจเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงด้านพลังงานในภาพรวมเป็นอย่างดี
(2) นายปิติพันธ์ เทพปฏิมากรณ์ เป็นกรรมการ ปตท.สผ. ต่ออีกหนึ่งวาระ เนื่องจากเป็นผู้ที่มีความรู้ ความสามารถ และความเชี่ยวชาญในด้านการบริหารบุคคลและการบริหารจัดการองค์กรในธุรกิจพลังงานอย่างต่อเนื่อง เคยดำรงตำแหน่งรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ด้านทรัพยากรบุคคลและศักยภาพองค์กร และประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ กลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นต้น และก๊าซธรรมชาติ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เป็นประโยชน์แก่ ปตท.สผ. ในการวางกลยุทธ์ด้านการพัฒนาบุคคลเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงธุรกิจและองค์กรและการเติบโตของ ปตท.สผ. ในอนาคต
(3) นางสาวปนัดดา กนกวัฒน์ เป็นกรรมการ ปตท.สผ. ต่ออีกหนึ่งวาระ เนื่องจากเป็นผู้ที่มีความรู้ ความสามารถ และความเชี่ยวชาญในด้านบัญชี การเงิน อย่างดียิ่ง มีประสบการณ์ทำงานด้านการเงินมาอย่างต่อเนื่อง โดยดำรงตำแหน่งกรรมการอิสระและกรรมการตรวจสอบของบริษัทการเงินชั้นนำ และเคยดำรงตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงด้านการเงินของบริษัทในกลุ่ม ปตท. จึงมีความรู้ความเข้าใจในภาพรวมของการดำเนินธุรกิจและการลงทุนในธุรกิจพลังงานเป็นอย่างดี
(4) นายบัณฑิต เอื้ออาภรณ์ เป็นกรรมการ ปตท.สผ. ต่ออีกหนึ่งวาระ เนื่องจากเป็นผู้ที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ ทางด้านวิศวกรรม เทคโนโลยี และให้ความสำคัญกับการสร้างนวัตกรรม โดยมุ่งสร้างนวัตกรรมเพื่อสามารถสร้างมูลค่าและคุณค่าจากทรัพยากรที่มีอยู่ และยังเป็นผู้ที่ให้ความสำคัญกับ “คน” โดยเน้นการ “พัฒนาคน” และการสร้างและส่งเสริม “คน” ให้ทำงานได้อย่างเต็มศักยภาพ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อ ปตท.สผ. ในการพัฒนาบุคคลากรให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อการปรับเปลี่ยนองค์กรในสภาวการณ์ที่มีความผันผวนของธุรกิจพลังงานในปัจจุบัน
(5) พลเรือเอก ธนะรัตน์ อุบล เป็นกรรมการ ปตท.สผ. ต่ออีกหนึ่งวาระ เนื่องจากเป็นผู้มีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านความมั่นคง ปลอดภัย โดยเฉพาะความมั่นคงทางทะเล ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการวางยุทธศาสตร์เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องกับทางทะเลของ ปตท.สผ. นอกจากนี้ เป็นผู้มีประสบการณ์และมีวิสัยทัศน์ให้ ปตท.สผ. เป็นองค์กรชั้นนำระดับโลกที่สร้างความมั่นคงทางด้านพลังงานและเศรษฐกิจของประเทศและภูมิภาคอาเซียน ซึ่งจะเป็นแนวทางที่ให้ ปตท.สผ. เติบโตต่อไปในระดับสากล
ทั้งนี้ มีรายละเอียดและวิสัยทัศน์ของผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อเป็นกรรมการทั้ง 5 คน ดังสิ่งที่ส่งมาด้วย 4
ความเห็นของคณะกรรมการ :
ที่ประชุมผู้ถือหุ้นสมควรอนุมัติเลือกตั้งกรรมการ 5 คน ได้แก่ (1) นายปรัชญา ภิญญาวัธน์ (2) นายปิติพันธ์ เทพปฏิมากรณ์ (3) นางสาวปนัดดา กนกวัฒน์ (4) นายบัณฑิต เอื้ออาภรณ์ (5) พลเรือเอก ธนะรัตน์ อุบล ตามข้อเสนอของคณะกรรมการสรรหาที่ได้พิจารณากลั่นกรองอย่างเหมาะสมแล้ว โดยจะเป็นกรรมการอิสระ 4 คน (หมายเลข 1, 3, 4 และ 5) ตามคุณสมบัติที่สอดคล้องกับคำนิยามกรรมการอิสระของ ปตท.สผ. และคณะกรรมการ ปตท.สผ. ได้เห็นชอบให้นำเสนอต่อคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) เพื่อให้ความเห็นชอบตามที่กำหนดในระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการกำหนดนโยบายและกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจ ทั้งนี้ กรรมการที่มีส่วนได้เสียไม่ได้อยู่ในห้องประชุมและไม่ได้ออกเสียงในที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท
ระเบียบวาระที่ 7 เรื่องอื่น ๆ (ถ้ามี)
ข้อมูลประกอบ :
ตามพระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด พ.ศ. 2535 นอกจากระเบียบวาระต่าง ๆ ข้างต้นแล้ว ผู้ถือหุ้นซึ่งมีหุ้นนับรวมกันได้ไม่น้อยกว่าหนึ่งในสามของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้ทั้งหมด จะขอให้ที่ประชุมพิจารณาเรื่องอื่นนอกจากที่ได้กำหนดไว้ในหนังสือนัดประชุมอีกก็ได้
ความเห็นของคณะกรรมการ :
ที่ประชุมผู้ถือหุ้นไม่สมควรพิจารณาเรื่องอื่น ๆ อีก เนื่องจากตามหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดีสำหรับบริษัทจดทะเบียนปี 2555 และโครงการประเมินคุณภาพการจัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี ที่ประชุมสมควรพิจารณาปรึกษาหารือกันเฉพาะเรื่องที่มีการแจ้งไว้ล่วงหน้าเท่านั้น เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับผู้ถือหุ้นทั้งหมดโดยรวม
จึงขอเรียนเชิญผู้ถือหุ้นเข้าร่วมประชุมตามวัน เวลา และสถานที่ดังกล่าวข้างต้น โดย ปตท.สผ. กำหนดให้วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2561 เป็นวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้น (Record Date) เพื่อสิทธิเข้าร่วมประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2561 และรับเงินปันผล และจะเปิดให้ผู้ถือหุ้นลงทะเบียนเพื่อเข้าร่วมประชุมตั้งแต่เวลา 07.30 น. เป็นต้นไป โดยประธานกรรมการมอบหมายให้เจ้าหน้าที่รับลงทะเบียนเป็นผู้รับหนังสือมอบฉันทะแทนประธานกรรมการ และเพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับผู้ถือหุ้นและผู้รับมอบฉันทะในการลงทะเบียนให้รวดเร็วยิ่งขึ้น จึงใคร่ขอให้ท่านโปรดนำเอกสารและหลักฐานตามรายการในสิ่งที่ส่งมาด้วย 5, 6 และ 7 (ถ้ามี) มาแสดงเพื่อลงทะเบียนในวันประชุมด้วย ในกรณีที่ผู้ถือหุ้นเลือกมอบฉันทะให้แก่กรรมการอิสระของ ปตท.สผ. ดังมีรายชื่อและรายละเอียดในสิ่งที่ส่งมาด้วย 8 โปรดนำส่งเอกสารและหลักฐานตามรายการในสิ่งที่ส่งมาด้วย 5, 6 และ 7 ใส่ซองตอบรับตามสิ่งที่ส่งมาด้วย 9 ส่งกลับมายัง ปตท.สผ. ภายในวันที่ 23 มีนาคม 2561 โดย ปตท.สผ. ขอแนะนำให้ใช้หนังสือมอบฉันทะแบบ ข. ตามสิ่งที่ส่งมาด้วย 7 ซึ่งท่านสามารถระบุการออกเสียงลงคะแนนได้อย่างชัดเจน โดยผู้ถือหุ้นสามารถ Download หนังสือมอบฉันทะ แบบ ก. และ แบบ ค. ได้จากเว็บไซต์ของ ปตท.สผ. และ ปตท.สผ. ขอสงวนสิทธิไม่รับลงทะเบียนในกรณีที่เอกสารไม่ครบถ้วน หรือไม่ถูกต้อง หรือไม่เป็นไปตามเงื่อนไข และจะดำเนินการประชุมตามพระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัดและข้อบังคับบริษัทตามรายละเอียดในสิ่งที่ส่งมาด้วย 10
ทั้งนี้ เพื่อให้ผู้ถือหุ้นได้รับประโยชน์สูงสุดจากการประชุม รวมทั้งเป็นการรักษาสิทธิประโยชน์ของท่านอย่างเต็มที่ หากท่านมีคำถามที่ต้องการให้ ปตท.สผ. ชี้แจงในประเด็นของระเบียบวาระที่นำเสนอครั้งนี้ หรือข้อมูลอื่น ๆ ของ ปตท.สผ. สามารถจัดส่งคำถามไปล่วงหน้าได้ที่ CorporateSecretary@pttep.com หรือโทรสารหมายเลข 0-2537-4500 และในวันประชุมผู้ถือหุ้น ปตท.สผ. ได้จัดของว่างและเครื่องดื่มไว้รับรองผู้ถือหุ้นและผู้รับมอบฉันทะที่มาร่วมประชุม แต่ไม่ได้มีการแจกของชำร่วย
อนึ่ง หากผู้ถือหุ้นท่านใดต้องการรับหนังสือรายงานประจำปี 2560 และรายงานความยั่งยืนประจำปี 2560 ของ ปตท.สผ. ท่านสามารถติดต่อขอรับได้ที่ สายงานเลขานุการบริษัท ศูนย์เอนเนอร์ยี่ คอมเพล็กซ์ อาคาร เอ เลขที่ 555/1 ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงจตุจักร เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900 หรือกรอกแบบฟอร์มในสิ่งที่ส่งมาด้วย 11 และส่งกลับไปที่ ปตท.สผ. เพื่อ ปตท.สผ. จะได้จัดส่งให้แก่ท่านต่อไป และสำหรับท่านที่ต้องการรับเงินปันผลระบบ E-dividend ซึ่งมีความสะดวกและรวดเร็วในการรับเงิน กรุณาแจ้งความประสงค์ที่ บริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด โดยจะมีผลใช้กับการรับเงินปันผลในคราวถัดไป
ขอแสดงความนับถือ
สมพร ว่องวุฒิพรชัย
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สายงานเลขานุการบริษัท ปตท.สผ. :
- ม.ล. พรรณะเลิศ วาสิกศิริ โทร. 0-2537-4749 หรือ
- นางฉัตราพรรณ ชีวานนท์ โทร. 0-2537-5310 หรือ
- นางสาวนลิณรัช สุขสถาพร 0-2537-4000 ต่อ 2233
เอกสารที่เกี่ยวข้อง
การเสนอระเบียบวาระการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นและชื่อกรรมการล่วงหน้า
“บริษัท” หมายความว่า บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน)
“ระเบียบวาระการประชุม” หมายความว่า ระเบียบวาระการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2561 ของ ปตท.สผ.
“คณะกรรมการ” หมายความว่า คณะกรรมการ ปตท.สผ.
“กรรมการ” หมายความว่า กรรมการ ปตท.สผ.ผู้ถือหุ้นที่จะเสนอระเบียบวาระการประชุมหรือเสนอชื่อกรรมการต้องมีคุณสมบัติ ดังนี้
3.1 เป็นผู้ถือหุ้นของบริษัท ณ วันที่เสนอระเบียบวาระการประชุมหรือเสนอชื่อกรรมการ โดยอาจเป็นผู้ถือหุ้นรายเดียวหรือหลายรายรวมกันได้
3.2 มีสัดส่วนการถือหุ้นขั้นต่ำไม่น้อยกว่า 100,000 หุ้น
(1) ต้องเสนอโดยผู้ถือหุ้นที่มีคุณสมบัติครบถ้วนตามข้อ 3
(2) ต้องกรอก “แบบเสนอระเบียบวาระการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2561 (แบบ ก.)” และส่งต้นฉบับของแบบ ก. พร้อมเอกสารหลักฐานที่บริษัทกำหนดให้ถึงบริษัทภายในวันที่ 16 ธันวาคม 2560 เพื่อให้คณะกรรมการมีเวลาเพียงพอในการพิจารณาระเบียบวาระการประชุม ทั้งนี้ สามารถส่งอย่างไม่เป็นทางการทางโทรสาร หมายเลข 0-2537-4500 หรือทางจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (Email) corporatesecretary@pttep.com ก่อนก็ได้
(3) กรณีผู้ถือหุ้นหลายรายรวมกันเสนอระเบียบวาระการประชุมผู้ถือหุ้น ผู้ถือหุ้นทุกรายต้องกรอก “แบบ ก.” และลงชื่อไว้เป็นหลักฐาน แล้วรวมส่งเป็นชุดเดียวกัน
4.2 วิธีการพิจารณา
(1) คณะกรรมการจะเป็นผู้พิจารณาความเหมาะสมของระเบียบวาระการประชุมที่ผู้ถือหุ้นเสนอ ซึ่งจะต้องไม่มีลักษณะดังนี้
(1.1) เรื่องที่กำหนดในมาตรา 89/28 ของพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ที่แก้ไขเพิ่มเติม[1]
(1.2) เรื่องที่ขัดกับกฎหมาย ประกาศ และระเบียบต่างๆ ของหน่วยงานราชการ หรือหน่วยงานที่กำกับดูแลบริษัท หรือไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ ข้อบังคับ มติที่ประชุมผู้ถือหุ้น และการกำกับดูแลกิจการที่ดีและจริยธรรมธุรกิจของกลุ่ม ปตท.สผ.
(1.3) เรื่องที่บริษัทได้ดำเนินการแล้ว
(1.4) เรื่องที่ผู้ถือหุ้นให้ข้อมูลไม่ครบถ้วน หรือไม่ถูกต้อง หรือไม่สามารถติดต่อได้ หรือไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่บริษัทกำหนด
ทั้งนี้ เว้นแต่คณะกรรมการจะพิจารณาเป็นอย่างอื่น และให้คำวินิจฉัยของคณะกรรมการถือเป็นที่สุด
(2) เรื่องที่ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการจะบรรจุเป็นระเบียบวาระการประชุม พร้อมทั้งความเห็นของคณะกรรมการ
(3) เรื่องที่ไม่ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการ บริษัทจะแจ้งให้ผู้ถือหุ้นทราบพร้อมชี้แจงเหตุผลผ่านช่องทางของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยหรือช่องทางอื่น ที่เหมาะสม และแจ้งเป็นระเบียบวาระเพื่อทราบในการประชุมผู้ถือหุ้นด้วย
[1](1) เป็นเรื่องที่ไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดในวรรคหนึ่งของมาตรา 89/28
(2) เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจปกติของบริษัท และข้อเท็จจริงที่กล่าวอ้างโดยผู้ถือหุ้นมิได้แสดงถึงเหตุอันควรสงสัยเกี่ยวกับความไม่ปกติของเรื่องดังกล่าว
(3) เป็นเรื่องที่อยู่นอกเหนืออำนาจที่บริษัทจะดำเนินการให้เกิดผลตามที่ประสงค์
(4) เป็นเรื่องที่ผู้ถือหุ้นได้เคยเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาแล้วในรอบสิบสองเดือนที่ผ่านมา และเรื่องดังกล่าวได้รับมติสนับสนุนด้วยคะแนนเสียงน้อยกว่าร้อยละสิบของจำนวนสิทธิออกเสียงทั้งหมดของบริษัท เว้นแต่ข้อเท็จจริงในการนำเสนอครั้งใหม่จะได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างมีนัยสำคัญจากข้อเท็จจริงในขณะที่นำเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นในครั้งก่อน
(5) กรณีอื่นใดตามที่คณะกรรมการกำกับตลาดทุนประกาศกำหนด
5.1 วิธีการเสนอ
(1) ต้องเสนอโดยผู้ถือหุ้นที่มีคุณสมบัติครบถ้วนตามข้อ 3
(2) ต้องกรอก “แบบเสนอชื่อกรรมการ (แบบ ข.)” และ “แบบข้อมูลของบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อเป็นกรรมการ” และส่งต้นฉบับของแบบ ข. และแบบข้อมูลของบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อเป็นกรรมการพร้อมเอกสารหลักฐานที่บริษัทกำหนดให้ถึงบริษัทภายในวันที่ 16 ธันวาคม 2560 เพื่อให้ ปตท.สผ. มีเวลาในการพิจารณากลั่นกรองและตรวจสอบคุณสมบัติก่อนนำเสนอให้คณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) พิจารณาให้ความเห็นชอบรายชื่อกรรมการ ทั้งนี้ สามารถส่งอย่างไม่เป็นทางการทางโทรสาร หมายเลข 0-2537-4500 หรือทางจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (Email) corporatesecretary@pttep.com ก่อนก็ได้
(3) กรณีผู้ถือหุ้นหลายรายรวมกันเสนอชื่อกรรมการ ผู้ถือหุ้นทุกรายต้องกรอก “แบบ ข.” และลงชื่อไว้เป็นหลักฐาน แล้วรวมส่งเป็นชุดเดียวกัน
5.2 วิธีการพิจารณา
(1) คณะกรรมการจะเป็นผู้พิจารณาบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อเป็นกรรมการ ซึ่งจะต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้าม ดังนี้
(1.1) มีคุณสมบัติถูกต้องและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามกฎหมายบริษัทมหาชนจำกัด กฎหมายหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ การกำกับดูแลกิจการที่ดีและจริยธรรมธุรกิจของกลุ่ม ปตท.สผ. และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง
(1.2) มีอายุไม่เกิน 70 ปีบริบูรณ์ (นับถึงสิ้นปี 2561)
(1.3) มีความรู้ ความสามารถ ที่เป็นประโยชน์อย่างสำคัญต่อธุรกิจของบริษัท โดยจะให้ความสำคัญในด้านการวางแผนกลยุทธ์และโอกาสการลงทุนในธุรกิจใหม่ๆ ปรับเปลี่ยนองค์กร เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงทิศทางองค์กร (Organization Change and Development) รวมถึงด้านกฎหมาย (Legal) และด้านการบัญชี (Accounting) โดยอาจพิจารณาความเหมาะสมใน Skill Mix ด้านอื่นที่ยังมีสัดส่วนกรรมการไม่มากตามความจำเป็นและสมควรด้วยส่วนหนึ่ง
(1.4) ไม่ควรดำรงตำแหน่งกรรมการบริษัทจดทะเบียนเกิน 3 บริษัท
(1.5) ไม่เป็นกรรมการในรัฐวิสาหกิจและหรือนิติบุคคลที่รัฐวิสาหกิจเป็นผู้ถือหุ้นเกินกว่า 3 แห่ง
(2) คณะกรรมการจะเสนอรายชื่อบุคคลที่มีคุณวุฒิ และประสบการณ์ที่เหมาะสม รวมถึงมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตาม (1) ต่อคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบตามที่กำหนดไว้ในระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการกำหนดนโยบายและกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจ ข้อ 12 ต่อไป
(3) บุคคลที่ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการหรือคณะกรรมการ นโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) จะได้รับการบรรจุชื่อในระเบียบวาระการประชุม พร้อมทั้งความเห็นของคณะกรรมการและ คนร. (ถ้ามี)
(4) บุคคลที่ไม่ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการหรือคณะกรรมการ นโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) ปตท.สผ. จะแจ้งให้ผู้ถือหุ้นทราบพร้อมชี้แจงเหตุผลผ่านช่องทางของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยหรือช่องทางอื่นที่เหมาะสม และแจ้งเป็นระเบียบวาระเพื่อทราบในการประชุมผู้ถือหุ้นด้วย