Menu

รายงานต่อตลาดหลักทรัพย์

การเข้าซื้อบริษัทในเครือ Murphy Oil Corporation ในประเทศมาเลเซีย

21 มีนาคม 2562


ที่ ปตท.สผ. 13061/00-3212/2019

21 มีนาคม 2562

เรื่อง      การเข้าซื้อบริษัทในเครือ Murphy Oil Corporation ในประเทศมาเลเซีย
เรียน     กรรมการและผู้จัดการ
           ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
สิ่งที่ส่งมาด้วย    สารสนเทศรายละเอียดของรายการเข้าซื้อหุ้น
                  
บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) (ปตท.สผ. หรือ บริษัทฯ) ขอแจ้งว่าเมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2562 บริษัท PTTEP HK Offshore Limited บริษัทย่อยของ ปตท.สผ. ได้ลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้น (Share Sale and Purchase Agreement : SSPA) เพื่อเข้าซื้อธุรกิจทั้งหมดของบริษัท Murphy Oil Corporation (Murphy) ในประเทศมาเลเซีย ผ่านการเข้าซื้อหุ้นในบริษัทย่อยซึ่งได้แก่ บริษัท Murphy Sabah Oil Ltd. (Murphy Sabah) และ Murphy Sarawak Oil Ltd. (Murphy Sarawak) ในสัดส่วนร้อยละ 100
                  
ปัจจุบันทั้งสองบริษัทมีการลงทุนในธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียมจำนวน 5 โครงการ ประกอบด้วย โครงการที่อยู่ในระยะผลิต 2 โครงการ ระยะพัฒนา 1 โครงการและระยะสำรวจ 2 โครงการ โดยมีประมาณการปริมาณสำรองปิโตรเลียม (2P*)จำนวน 274 ล้านบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบ และมีปริมาณการขายสุทธิ (net sales volume) ปี 2561 ประมาณ 48,000 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน (เป็นน้ำมันและคอนเดนเสทร้อยละ 62) โดยมีรายละเอียดของโครงการ ดังต่อไปนี้
  1. โครงการ SK309 & SK311 ประกอบด้วยแปลง SK309 และแปลง SK311 ซึ่งเป็นแหล่งผลิตน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ ตั้งอยู่ในทะเลน้ำตื้น นอกชายฝั่งรัฐ Sarawak ปัจจุบัน Murphy Sarawak มีสัดส่วนการลงทุนในโครงการร้อยละ 59.5 ยกเว้นพื้นที่ East Patricia ในแปลง SK309 ที่มีสัดส่วนการลงทุนร้อยละ 42 โดยมีปริมาณการขายสุทธิสำหรับปี 2561 ประมาณ 30,000 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน
  2. โครงการ Sabah K ประกอบด้วยแหล่ง Kikeh, Siakap North-Petai (SNP) และ Gumusut-Kakap (GK) ซึ่งเป็นแหล่งผลิตน้ำมัน ตั้งอยู่ในทะเลน้ำลึก นอกชายฝั่งรัฐ Sabah ปัจจุบัน Murphy Sabah มีสัดส่วนการลงทุนในโครงการร้อยละ 56 , ร้อยละ 22.4 และ ร้อยละ 6.4 ตามลำดับ โดยมีปริมาณการขายสุทธิสำหรับปี 2561 ประมาณ 18,000 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน
  3. โครงการ Sabah H เป็นแหล่งก๊าซธรรมชาติที่อยู่ระหว่างการพัฒนา ตั้งอยู่ในทะเลน้ำลึก นอกชายฝั่งรัฐSabah ปัจจุบัน Murphy Sabah มีสัดส่วนการลงทุนในโครงการร้อยละ 56 ในพื้นที่ Rotan field และร้อยละ 42 ในพื้นที่ที่เหลือ โดยคาดว่าโครงการจะเริ่มผลิตก๊าซธรรมชาติได้ภายในครึ่งหลังของปี 2563 และมีกำลังการผลิตที่ 270 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน คิดเป็นปริมาณการขายสุทธิประมาณ 130 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน (หรือ 22,000 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน)
  4. โครงการ SK314A เป็นแหล่งสำรวจปิโตรเลียม ตั้งอยู่ในทะเลน้ำตื้น นอกชายฝั่งรัฐ Sarawak ปัจจุบัน Murphy Sarawak มีสัดส่วนการลงทุนในโครงการร้อยละ 59.5
  5. โครงการ SK405B เป็นแหล่งสำรวจปิโตรเลียม ตั้งอยู่ในทะเลน้ำตื้น นอกชายฝั่งรัฐ Sarawak ปัจจุบัน Murphy Sarawak มีสัดส่วนการลงทุนในโครงการร้อยละ 59.5
Murphy เป็นผู้ดำเนินการโครงการทั้งหมดในประเทศมาเลเซีย ยกเว้น แหล่ง GK ในโครงการ Sabah K ซึ่งดำเนินการโดย Shell
                  
การเข้าซื้อดังกล่าวมีมูลค่ารวมประมาณ 2,127 ล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกา (ดอลลาร์ สรอ.) ซึ่งมูลค่าดังกล่าวจะต้องมีการปรับเงินทุนหมุนเวียนที่เปลี่ยนแปลงไปจนกว่าการซื้อขายจะมีผลสมบูรณ์ โดยอาจมีการรับรู้มูลค่าการซื้อเพิ่มเติมในจำนวนไม่เกิน 100 ล้านดอลลาร์ สรอ. หากผลการเจาะสำรวจของโครงการ SK405B พบปริมาณปิโตรเลียมอย่างมีสาระสำคัญ โดย ปตท.สผ.จะชำระมูลค่าการซื้อขายด้วยเงินสดที่มีอยู่ เมื่อบรรลุเงื่อนไขตามที่ระบุไว้ในสัญญาฯ ซึ่งรวมถึงการได้รับอนุมัติจากหน่วยงานรัฐ โดยคาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในไตรมาสที่ 2 ของปี 2562 และภายหลังสัญญาเสร็จสิ้น ปตท.สผ. จะเป็นผู้ดำเนินการแทน Murphy ในสัดส่วนการลงทุนเดียวกัน ทั้งนี้ ปตท.สผ.จะทำงานร่วมกับ Murphy เพื่อให้การดำเนินการระหว่างการเปลี่ยนผ่านทางธุรกิจเป็นไปอย่างราบรื่น และคำนึงถึงมาตรฐานความปลอดภัยภายใต้กลุ่มบุคคลากรที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในปัจจุบัน
                  
การเข้าซื้อธุรกิจจาก Murphy ในประเทศมาเลเซียครั้งนี้ เป็นไปตามแผนกลยุทธ์ Coming Home Strategy ของ ปตท.สผ. ที่เน้นการลงทุนในพื้นที่ที่มีศักยภาพในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเป็นการเข้าซื้อกลุ่มโครงการที่อยู่ในระยะการผลิต พัฒนา และสำรวจ ซึ่งนอกจากจะสามารถมีกระแสเงินสดที่เพียงพอต่อการดำเนินงานเองแล้ว ยังสามารถเพิ่มรายได้ ปริมาณการผลิตและปริมาณสำรอง ให้กับ ปตท.สผ.ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว นอกจากนี้การเข้าซื้อดังกล่าวยังเป็นการเสริมสร้างความร่วมมือกับพันธมิตรธุรกิจอย่าง Petronas และเป็นการขยายฐานปฏิบัติการให้กับ ปตท.สผ. ในประเทศมาเลเซียในฐานะผู้ผลิตน้ำมันและก๊าซธรรมชาติรายใหญ่ อีกทั้งยังสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับโครงการที่บริษัทมีอยู่ปัจจุบันในประเทศมาเลเซียผ่านการดำเนินงานร่วมกัน รวมถึงส่งเสริมพัฒนาศักยภาพการดำเนินงานโครงการน้ำลึกของบริษัทในอนาคตอีกด้วย  
                  
การเข้าซื้อหุ้นในครั้งนี้ถือเป็นรายการได้มาซึ่งทรัพย์สิน โดยเมื่อนับรวมขนาดรายการได้มาซึ่งทรัพย์สินสะสม 6 เดือนย้อนหลัง ขนาดรายการรวมมีขนาดสูงกว่าร้อยละ 15 แต่ต่ำกว่าร้อยละ 50 จึงเข้าข่ายเป็นรายการประเภทที่ 2 ตามประกาศคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เรื่องการเปิดเผยข้อมูลและการปฏิบัติการของบริษัทจดทะเบียนในการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ พ.ศ. 2547 (รวมถึงประกาศที่แก้ไขเพิ่มเติม) และประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุนที่ ทจ. 20/2551 เรื่องหลักเกณฑ์ในการทำรายการที่มีนัยสำคัญที่เข้าข่ายเป็นการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งทรัพย์สิน (รวมถึงประกาศที่แก้ไขเพิ่มเติม) ปตท.สผ. จึงได้จัดทำรายงานและเปิดเผยการเข้าซื้อครั้งนี้ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยทันทีเมื่อมีการตกลงเข้าทำรายการพร้อมสารสนเทศตามที่กำหนดในประกาศฯ และจัดส่งหนังสือเวียนแจ้งผู้ถือหุ้นทราบภายใน 21 วันนับแต่วันที่เปิดเผยรายการต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
 
จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ
                                                                           
ขอแสดงความนับถือ
พงศธร ทวีสิน
(นายพงศธร ทวีสิน)
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่
 
แผนกนักลงทุนสัมพันธ์
โทร. +66(0) 2537 4868, +66(0) 2537 5843